ดูแบบคำตอบเดียว
  #95  
เก่า 18-01-2012, 11:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,271 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ก่อนที่จะทำสังคายนาก็มีการชำระพระศาสนา ประกาศให้นักบวชทั้งหมดมารวมกัน ใครเป็นนักบวชในพระพุทธศาสนาให้ออกมาข้างหน้า พอออกมาแล้วก็กวาดต้อนเข้าไปข้างใน ปิดประตูวัง ถามว่าใครปลอมบวชมา ? ถ้าหากว่ายอมสละผ้ากาสาวพัสตร์ออกแต่โดยดีจะไม่เอาโทษ เปิดประตูให้ออกได้ ก็มีพวกรู้ตัวรีบเผ่นกันเยอะ แต่ก็มีพวกหน้าด้านอยู่ เพราะเห็นว่าลาภผลมาก เพราะพระเจ้าแผ่นดินอุปถัมภ์ทุกวัน จึงไม่ยอมไป

พระเจ้าอโศกมหาราชจึงถามพระโมคคัลลีบุตรติสสะเถระว่า ควรจะแก้ไขอย่างไร ? ท่านทูลว่า ให้ถามว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร ถ้าเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศานาจริงต้องตอบได้ สรุปว่าครั้งนั้นโดนประหารไปประมาณ ๒-๓ หมื่นคน..! ขนาดไปก่อนหน้านั้นเป็นครึ่ง ๆ แล้วนะ

เวลาพระเจ้าอโศกมหาราชออกรบครั้งหนึ่ง ท่านจัดการไป ๒-๓ แสนศพ เสร็จแล้วท่านก็ไปนั่งสลดใจว่าต้องฆ่าเขามากขนาดนี้ พอดีไปเจอนิโครธสามเณรแนะนำหลักธรรมทางพุทธศาสนาให้ พระองค์ท่านเกิดความเลื่อมใสขึ้นมา เปลี่ยนจากยุทธวิชัยมาเป็นธรรมยุทธแทน จะไม่ชนะด้วยการรบแต่เอาชนะด้วยธรรม

พระองค์จึงให้การคุ้มครองอุปถัมภ์ค้ำชูแก่ประเทศเล็กกว่า อ่อนแอกว่า พอพระองค์ท่านมีแสนยานุภาพมากและให้การปกป้องคุ้มครองลักษณะนั้น เมืองอื่นเห็นว่าไม่ต้องไปรบราฆ่าฟันกัน ก็ยอมมาเป็นเมืองขึ้นแต่โดยดี นั่นฝีมือสามเณรตัวนิดเดียวแนะนำให้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-01-2012 เมื่อ 14:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา