| 
				  
 
			
			ขออนุญาตแบ่งปันความรู้สึกในการบวชเนกขัม รุ่นที่ ๑/๒๕๕๕
 ในปี ๒๕๕๔ เมตตาคนอื่นมากไป ทำให้จิตกังวลในเรื่องการถ่ายภาพ
 รวมทั้งกังวลเรื่องคนที่มาบวชเนกขัมมะ ครั้งแรก
 
 แต่การจัดทริปปี ๒๕๕๕ ให้ความสำคัญกับ "จิตของตัวเองมากขึ้น"
 โดย "เมตตาตัวเองมากขึ้น" และมองว่า คนที่มาร่วมทริป คือ คนร่วมจ่ายค่ารถมาบวชร่วมกัน
 ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องดูแลเป็นพิเศษ และไม่จำเป็นต้องดูแลความรู้สึกของผู้ร่วมทริปมากนัก
 
 กล่าวคือ ทุกคนควร "ดูแลใจตัวเอง" และเรียนรู้ว่า คนหมู่มากกำลังทำอะไรอยู่
 แต่ได้กำชับผู้ร่วมทริป ๒ เรื่อง คือ "เรื่องเสียงมือถือ" และ "เรื่องการตรงต่อเวลา"
 
 สำหรับความรู้สึกส่วนตัวในการบวชรอบนี้
 
 ๑. รู้สึกว่า ตัวเอง "วาง" ในหลาย ๆ เรื่อง อาทิ เรื่องถ่ายรูป ผมถ่ายบ้างนิดหน่อย
 เพื่อเอาไปโพสต์ในคนโมทนาในเว็บพลังจิต เป็นต้น แต่รอบนี้ "หมอเสือ" ดันเบี้ยวผม ๕๕๕
 
 ๒. บวชรอบนี้ รู้สึกว่า "นั่งสมาธิได้ลึกขึ้น นิ่งขึ้น" แม้จะยังไม่ถึงขั้นที่ใช้งานได้ก็ตาม
 แต่รู้สึกว่า "จิตไม่ต้องแบก" โดยได้กลับมาทบทวนพื้นฐานของการนั่งกรรมฐานที่พระอาจารย์เคยสอนไว้
 คือ "จับภาพพระ และจับลมหายใจเข้าออก"
 
 ๓. เริ่มวางกำลังใจแบบที่พระอาจารย์สอนไว้ ใจความโดยสรุป คือ
 
 "ต้องให้กำลังใจตัวเองในการปฏิบัติ" เช่น เราต้องการไปเชียงใหม่ แต่ตอนนี้เราอยู่กาญจนบุรี
 ถ้าเรามองว่า ระยะทางอีกไกล เราจะหมดกำลังใจ แต่ถ้าเรามองไปยังคนที่อยู่นราธิวาส
 เราจะเห็นว่า เราอยู่กลางทางแล้ว เราอยู่ใกล้เชียงใหม่มากกว่าคนที่อยู่นราธิวาส"
 
 ๔. ผมรู้สึกและเชื่อว่าได้รับการสงเคราะห์จาก "พระ" ไม่ว่าจะเป็น
 "เสียงตามสายของหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง" "การเทศน์สอนของพระอาจารย์เล็กในการบวชเนกขัมมะ"
 และ "เสียงของท่านจิตโต ซึ่งผมนำมาฟังด้วย"
 
 "หลาย ๆ คำถามในใจ" มีคำตอบออกมาครับ
 
 ถือว่า "คุ้มค่ามาก" ที่ได้ไปบวชเนกขัมมะตลอดปี ๒๕๕๔ ต่อเนื่องมาถึงปี ๒๕๕๕
 
				__________________ร่วมรณรงค์การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง เริ่มต้นได้ด้วยตัวคุณเอง
 |