ธรรมะเรื่องริษยาและการมอบกายถวายชีวิต
(เครดิตคุณเล่งอ๋องครับ)
เนื้อความในจดหมาย มีดังต่อไปนี้ครับ
อิจฉา อัตตะ มานะ ล้วนแต่เป็นความเห็นผิดใน "อวิชชา" นอกจากเป็นการสร้างความทะเยอะทะยานในความเป็นโมฆะบุรุษ-โมฆะสตรี ซึ่งเป็นการสร้างหนทางสู่ความวิบัติฉิบหายให้เกิดกับตนเองแล้ว ยังได้ชื่อว่าเป็นการทำลายแลสร้างความหายนะมลทินโทษ ให้กับบุคคลผู้มีสารัตถะประโยชน์แก่โลกอีกด้วย ผู้ที่ถูกครอบงำด้วยอธรรมเหล่านี้ จึงเป็นผู้มีชีวิตอยู่เพียงราตรีเดียวก็น่าประณาม เพราะเป็นบุคคลรกโลก หนักแผ่นดิน เมื่อกายแตกดับก็มีแต่ทุคติ คืออบายภูมิเป็นที่ไปแต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น
------------------------------------------------------
"ความริษยา" เป็นอุปกิเลสที่มีความเร่าร้อนรุนแรงกว่า "ความอิจฉา" เพราะมีอารมณ์โทสะเป็นตัวนำ ภายใต้การควบคุมของความหลง คือโมหะ ทุกวันนี้เราทั้งหลายได้แต่เพ่งหาโทษผู้อื่น โดยที่ไม่รู้สึกสำนึกในอารมณ์เร่าร้อน เต็มไปด้วยแรงริษยาที่หมักหมมอยู่ภายในใจตน บุคคลจำพวกนี้ถึงมีชีวิตอยู่ก็เสมือนหนึ่งว่าตายแล้ว เพราะได้ชื่อว่าเพียรจุดไฟเพื่อเผาใจตนเองอยู่ตลอดเวลา
---------------------------------------------------
จงอย่าลืมว่าเราได้มอบกายถวายชีวิตนี้แด่คุณพระรัตนตรัยแล้ว กาย วาจา ใจ ของเราก็มิได้เป็นของเราแล้ว เป็นของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ มีพระคุณหลวงปู่ปาน พระคุณท่านพ่อฤๅษีฯ เป็นที่สุด จึงต้องหมั่นขัดล้าง กาย วาจา ใจนี้ ให้บริสุทธิ์ผ่องใส เพื่อรองรับคุณพระรัตนตรัยที่มีมหาเมตตากรุณา สงเคราะห์เสด็จมาประทับในอัตภาพสมมติของเราให้ตลอดเวลา
คุณพระรัตนตรัยทั้ง ๓ ประการนี้ หากได้บังเกิดขึ้นภายในใจของผู้ใดแล้ว บุคคลนั้นจะไม่มีความประมาทมัวเมา หลงตนเองอยู่เลย เพราะท่านทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ที่มีมรณานุสติ อยู่ในห้วงอารมณ์ที่เต็มไปด้วยกำลังของศีล เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ใจที่มุ่งต่อพระนิพพานเพียงจุดเดียว
__________________
คุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งอันสูงสุด กำจัดทุกข์ได้จริง กำจัดภัยได้จริง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 29-05-2009 เมื่อ 07:20
|