ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 30-12-2011, 07:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,737
ได้ให้อนุโมทนา: 152,130
ได้รับอนุโมทนา 4,419,783 ครั้ง ใน 34,327 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อภาวนาแล้วถอนออกมาพิจารณา สภาพจิตก็จะดำเนินการพิจารณานั้นไปเรื่อย จนกว่าจะถึงช่วงสุดท้าย ก็คือสภาพจิตรู้สึกว่าเข้าถึงจุดสุดท้ายแล้ว อย่างเช่นว่า เราไม่ต้องการร่างกายนี้ เราไม่ต้องการเกิดมาในโลกนี้ ตายแล้วเราขอไปพระนิพพาน ก็เอาจิตสุดท้ายเกาะพระนิพพานไว้ แล้วทำการภาวนาต่อไป

ในการปฏิบัตินั้น การภาวนาและพิจารณาจะต้องสลับกันไป เหมือนกับคนที่ผูกเท้าติดกัน ต้องผลัดกันก้าว เดี๋ยวเท้าซ้าย เดี๋ยวเท้าขวา จึงจะเคลื่อนไปข้างหน้าได้ แต่ถ้าก้าวเพียงข้างเดียว อย่างเช่นว่าภาวนาอย่างเดียว หรือพิจารณาอย่างเดียว ก็เหมือนกับคนที่ผูกขาติดกันอยู่ พยายามที่จะก้าวขาข้างเดียว ย่อมไม่สามารถที่จะไปได้ เพราะว่าจะโดนโซ่ที่ผูกอยู่นั้นรั้งกลับมา

เมื่อท่านทั้งหลายทราบแล้วว่า จะต้องใช้วิธีไหนในการปฏิบัติจึงจะเจริญก้าวหน้า ก็ขอให้ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติไปให้เต็มที่ วันหนึ่งอย่างน้อยให้มีเวลาเช้าและเย็น ๒ เวลา ที่เรามาปฏิบัติสมาธิภาวนาอย่างจริง ๆ จัง ๆ ส่วนในระหว่างวัน เราเอาสมาธิจดจ่ออยู่กับการงานบ้าง หรือว่าพิจารณาเห็นสิ่งรอบข้างให้เห็นทุกข์บ้าง

ถ้าสามารถทำได้อย่างนี้ ท่านทั้งหลายจะก้าวหน้าในการปฏิบัติมากขึ้น ลำดับต่อไปก็ให้ทุกคนตั้งใจภาวนาหรือพิจารณาไปตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
วันอาทิตย์ที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๔
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2011 เมื่อ 02:58
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา