"เมตฺเตยฺยา เมตฺเตยฺโย นาม............ราโม จ รามสมฺพุทฺโธ
โกสโล ธมฺมราชา จ..................... มารมาโร ธมฺมสามี
ทีฆชงฺฆี จ นารโท...................โสโณ รํสิมุนี ตถา
สุภูเต เทวเทโว.......................โตเทยฺโย นรสีหโก
ธนปาโล ติสฺโส นาม.................. ปาลิเลยฺย สุมงฺคโล
เอเต ทส พุทฺธา นาม.................ภวิสฺสนฺติ อนาคเต
กปฺปสตสหสฺสานิ........................ ทุคฺคตึ โส น คจฺฉติฯ
ไม่ใช่เซียนบาลีจริง ๆ แต่งฉันท์อย่างนี้ไม่ได้หรอก แล้วเซียนบาลีจริง ๆ ต้องระดับประโยค ๙ ไปแล้ว
พระพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นในช่วงแต่ละครั้งเป็นเรื่องที่ยากที่สุด สิ่งที่เกิดได้ยากที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ก็มี กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ การเกิดมาเป็นมนุษย์นั้นยากยิ่งเหลือแสน ท่านเปรียบว่าเหมือนเอาเต่าตาบอดตัวหนึ่งโยนไว้กลางทะเลที่เต็มไปด้วยคลื่นลม แล้วมีแอกเล็ก ๆ ที่ใหญ่พอจะสวมหัวเต่าได้ โยนลงไปอันหนึ่ง
ร้อยปีเต่าตัวนั้นโผล่ขึ้นมาทีหนึ่ง..ร้อยปีเต่าตัวนั้นโผล่ขึ้นมาทีหนึ่ง จนศีรษะเต่าสวมแอกนั้นได้เมื่อไร เท่ากับคนมีโอกาสเกิดได้ ๑ คน ร้อยปีได้เกิดคนหนึ่งก็แย่แล้วนะ แต่นี้ไม่รู้อนาคตว่านานเท่าไรถึงจะได้เกิด
กิจฺฉํ มจฺจาน ชีวิตฺตํ การจะดำรงชีวิตอยู่รอดมาเป็นเรื่องที่ยากเหลือแสน คนเรามีชีวิตอยู่แค่ลมหายใจเข้าออกเท่านั้นเอง หายใจเข้าไม่หายใจออกก็ตาย หายใจออกไม่หายใจเข้าก็ตาย เพราะฉะนั้น..มีโอกาสตายได้ทุกเวลา รอดมาได้ถือว่าโชคดีมากแล้ว
กิจฺฉํ สทฺธมฺมสฺสวนํ การจะได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้านั้นแสนจะยาก กว่าจะอุบัติขึ้นแต่ละพระองค์นี่รอกันหายห่วงไปเลย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2011 เมื่อ 18:11
|