พอพระพุทธเจ้าประสูติเป็นสิทธัตถราชกุมารเดินได้ ๗ ก้าว ยกพระหัตถ์ชี้ขึ้นข้างบนกล่าวว่า อหํ อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส เราเป็นผู้ที่เลิศที่สุดในโลก อหํ เชฎฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส เราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก อหํ เสฎฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส เราเป็นผู้ที่ประเสริฐสุดในโลก อยมนฺติมา เม ชาติ นตฺถิทานิ ปุนพฺภโวติ ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา ท่านสุดยอดขนาดนั้น คนเขาไม่เชื่อว่าเด็กอะไรเกิดมาพูดได้เดินได้เลย แสดงว่าศึกษาตำรามาไม่ครบ
พระอรรถกถาจารย์ท่านระบุเอาไว้ว่า
สัตว์บางจำพวก ขณะจุติไม่รู้ตัว ขณะเคลื่อนไปไม่รู้ตัว ขณะลงสู่ครรภ์ไม่รู้ตัว ขณะอยู่ในครรภ์ไม่รู้ตัว ต่อจนคลอดออกมาถึงรู้ตัว
อันนี้แย่ที่สุดแล้ว และเป็นบุคคลส่วนใหญ่ด้วย
สัตว์บางจำพวก ขณะจุติไม่รู้ตัว ขณะเคลื่อนไปไม่รู้ตัว ขณะลงสู่ครรภ์ไม่รู้ตัว ขณะอยู่ในครรภ์รู้ตัว คลอดออกมาก็รู้ตัว
สัตว์บางจำพวก ขณะจุติไม่รู้ตัว ขณะเคลื่อนไปไม่รู้ตัว ขณะลงสู่ครรภ์รู้ตัว ขณะอยู่ในครรภ์รู้ตัว คลอดออกมาก็รู้ตัว
สัตว์บางจำพวก ขณะจุติไม่รู้ตัว ขณะเคลื่อนไปรู้ตัว ขณะลงสู่ครรภ์รู้ตัว ขณะอยู่ในครรภ์รู้ตัว คลอดออกมาก็รู้ตัว
สัตว์บางจำพวกขณะจุติก็รู้ตัว ขณะเคลื่อนไปก็รู้ตัว ขณะลงสู่ครรภ์มารดาก็รู้ตัว ขณะอยู่ในครรภ์มารดาก็รู้ตัว คลอดออกมาก็รู้ตัว
จำพวกสุดท้ายนี่รู้ตัวตลอด พัฒนาการไม่มีอะไรมาขวางกั้น เพราะฉะนั้น..เรื่องพูดได้เป็นเรื่องเล็ก ชาติก่อนทำอะไรได้ชาตินี้ก็ทำได้ทั้งหมด แต่คราวนี้ว่า ร่างที่เกิดใหม่เป็นเด็ก เดิน ๗ ก้าวก็จะแย่เหมือนกัน ถ้าไม่เกรงใจและแข็งแรงกว่านี้คงวิ่งรอบโลกไปแล้ว
ถ้าเราเข้าใจตรงจุดนี้จะเห็นว่าไม่ใช่ของแปลก เพราะพระองค์ท่านรู้อยู่ตลอด เหมือนคนเดินข้ามจากบ้านนี้ไปบ้านโน้น เคยทำอะไรได้ก็ยังทำได้เหมือนเดิม
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-12-2011 เมื่อ 12:55
|