"แม่ชีคนนั้นเขาไม่รู้ว่าเขาผิด อาตมาก็บอกว่า สิ่งไหนที่เคยเตือนแล้ว ห้ามแล้วยังทำอีก ก็แสดงว่าเป็นคนที่ไม่รู้จักดีไม่รู้จักชั่ว คนประเภทนี้สมควรโดนตีกี่ที ? เขาบอกว่า ๑๒ ที เขาไม่รู้ว่ากำลังตัดสินตัวเอง พอตัดสินเสร็จอาตมาบอกว่าหันก้นมาแล้วตีเลย
สาเหตุที่ตีเพราะเขาหนีไปคุยกับเณรในป่าช้าเวลากลางคืน ถ้าไม่ตัดไฟแต่ต้นลมไว้ก่อนเดี๋ยวบรรลัยหมด คราวนี้พอพรรคพวกเห็นว่าโดน ก็เลยช่วยกันรับไปคนละทีสองที นั่นแหละ...ชีโหล่รับแทนไปทีหนึ่ง นอนคว่ำไปเป็นอาทิตย์เลย นอนหงายไม่ได้ ก้นแตกเป็นทางยาว อาตมามือหนักเกินชาวบ้านเขา...
เด็กวัดรุ่นนั้นโดนตีทุกวัน บางคนโดนตีเป็นสิบที เขาก็รับได้เพราะเขารู้ว่าเขาผิด พออาตมาไปรับสังฆทานที่กรุงเทพฯ อยู่พักเดียว กลับไปเด็กวัดหายหมด..! สอบถามถึงได้รู้ว่า อาจารย์สมพงษ์ตี ๖ ที เด็กหนีเลย
เวลาเด็กทำผิด อาจารย์สมพงษ์ท่านจะปล่อยไปเรื่อย ปล่อยจนตัวเองทนไม่ไหวแล้วไปตีระบายอารมณ์ทีเดียว เด็กเขารู้ว่าเขาไม่ได้ผิดขนาดนั้น ไปตีระบายอารมณ์นี่เขารับไม่ได้ เขาจึงหนีกลับบ้าน ส่วนอาตมาตีมากกว่าเป็นเท่าเขาไม่หนี
บางทีโยมมาใส่บาตรเห็นเด็กวัดเดินน่องลายพร้อย "โห..หลวงพ่อ ตีมันขนาดนี้เลยหรือ ?" อาตมาบอกว่า "ตีมันตอนนี้ ดีกว่าปล่อยให้มันโตแล้วกลายเป็นโจร..!"
อาตมาให้โอกาสเขามากเลย บอกว่า ๑. ถ้าข้าไม่เห็นเอง ๒.ถ้าไม่มีคนฟ้องแล้วเป็นพยาน เอ็งจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ แต่ถ้าข้าเห็นต่อหน้าต่อตา..โดน..! หรือถ้ามีคนฟ้องแล้วเป็นพยาน..เอ็งโดน..! บางทีตีไปเด็กก็บ่นพรรคพวกไป "ไอ้ห่..เอ๊ย..ทำไมต้องให้หลวงพ่อรู้ด้วยวะ" นั่นเขาตัดพ้อต่อว่ากันเอง"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 20-12-2011 เมื่อ 16:37
|