"การเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์เมื่อปี ๒๕๓๐ ก็คือวาระที่ในหลวงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา พอมาปี ๒๕๓๙ ทรงครองราชย์ ๕๐ ปี ก็คือกาญจนาภิเษก ก็มีการเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์ถวายอีกทีหนึ่ง ตอนนั้นอาตมาอยู่ที่เกาะพระฤๅษีเข้ายากออกยาก หลวงพ่อเจ้าคุณปัญญาก็เลยไม่ได้นิมนต์ไป
ตอนในหลวงพระชนมายุ ๗๒ พรรษา ไม่ทราบว่ามีพิธีเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์หรือเปล่า ? แต่ช่วง ๘๔ พรรษานี่มีแน่นอน และทางการเขาระบุไว้ว่า ให้ทุกจังหวัดหาแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นโดยที่เขาเชื่อถือกันมาแต่โบราณ หรือไม่ก็ให้หาแหล่งน้ำที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศ ตักน้ำศักดิ์สิทธิ์มาเพื่อเสกทูลเกล้าฯ ถวายให้ในหลวงสรงในวาระ ๘๔ พรรษา
จังหวัดกาญจนบุรีสรุปว่าเป็นที่สามประสบ ก็คือบริเวณที่แม่น้ำซองกาเลีย รันตี และบีคลี่มาประสบกัน ตรงนั้นมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ก็คือ เป็นสถานที่ซึ่งรัชกาลที่ ๑ กับกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ยกทัพไปตีพม่า ที่เขาเรียกว่าสงครามท่าดินแดง - สามสบ ครั้งนั้นยกทัพไปปี ๒๓๒๙ พระองค์ท่านไปพักทัพที่บ้านท่าขนุน มีระบุไว้ชัดเลย จึงกำหนดตักน้ำตรงนั้น ตักตั้งแต่เดือนตุลาคม แล้วก็มาเสกปลายเดือนพฤศจิกายน
พิธีเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์ครั้งแรกที่ได้พบก็คือ ตอนที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเสก ผ่านไป ๒๔ ปี หลวงลูกก็ไปร่วมพิธีอีก คราวนี้ไปในฐานะพระเกจิอาจารย์ ไปเสกเอง..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2011 เมื่อ 14:43
|