| 
				  
 
			
			รู้สึก งง ๆ ว่า นี่ตูมาบวชได้อย่างไรนี่ ทั้งที่ไม่เคยนึกอยากจะบวช ไม่ว่าชี หรือ ชีพราหมณ์...
 ไม่ชอบอยู่วัด เพราะกลัวทำตัวไม่เหมาะสม ไม่ชอบนอนกับใคร ไม่นอนกลางสาธารณชน ไม่ชอบใส่ชุดฟอร์ม...
 นี่แค่ไม่ต้องนุ่งขาวห่มขาว ('แค่เสื้อขาวก็พอ ข้างล่างอยากลายอย่างไร ก็ตามใจ') ก็มาบวชแล้ว
 ตื่นเช้าสวดมนต์อีก ถึงไม่ใช่คนตื่นสาย แต่ก็งงกับตัวเองที่รีบตื่นมาทำวัตรทุกครั้ง
 ...ครั้งแรกก็ว่า สักครั้งนะ ถวายในหลวง ปรากฏว่าสบายไป (มีโต๊ะจีนเลี้ยงด้วย)
 ทำให้ครบ ๓ ครั้งก็แล้วกัน... ครบสามครั้งแล้วก็ติดใจ มีครั้งที่สี่
 คลับคล้ายคลับคลาว่าเว้นครั้งที่ห้า แล้วก็มาอีก ครั้งหลัง ๆ นี่ติดใจ คิดถึงวัด คิดถึงพระอาจารย์
 
 ...อ้อ ลืมเล่าไปว่า คราวแรก คนเคยกินแต่ข้าวกลางวัน หนักมื้อเย็น ไม่กินข้าวเช้า
 หิวสิ..ช่วงค่ำ ก็กินนมบ้าง โอวัลตินบ้าง... พอครั้งที่สอง ไม่กินแล้วดีกว่า ก็ไม่ได้หิวมากแล้ว
 ก็พระอาจารย์ชวนคราวที่สองนี้เอง (ที่จริงก็ชวนคราวแรกด้วย ให้ถือศีลแปดต่อ แบบเฉพาะวันก็ได้)
 ที่ทำให้ถือศีลแปดมาถึงทุกวันนี้... ท่านชักชวนแบบ "จูงใจ" มาก
 ถึงกับเคลิ้มตามทีเดียว... นึกว่าก็เคยตั้งใจถือเมื่อหลายปีมาแล้ว
 ข้อไหน ๆ ก็ไม่เห็นลำบากเกินไป...นี่เรารออะไรอยู่ หรือจะรอกินข้าวเย็นอีกสักพัก
 
 ..บางรอบก็มีโอกาสแอบเดินถอยหลัง (จะ 'โดน' ฐานเลียนแบบไหมนะ)
 ทำให้รู้ว่า เดินเฉย ๆ ไม่ยากอะไร แต่เดินให้รู้ว่าจะชนใครหรือยังนี่สิ..???
 ...บางรอบก็แอบหลับตาเดิน นี่สิยากจริง..'ทำใจ'..ไม่เป็นสักที
 ที่สำคัญและขอกราบงาม ๆ คือ หลวงปู่สาย ท่านเมตตาเราทุกครั้งที่มีปัญหาตั้งกำลังใจตอนทำกรรมฐาน
 
 ...ไป ๆ มา ๆ ก็มาถึงครั้งที่เก้านี้ที่เว้น ก็งงตัวเองอีกว่า เลข '๙' เชียวนะ
 ช่วงวันเฉลิมฯ พอดี มีกิจกรรมดี ๆ ใบประกาศฯ เขาก็สะสมกัน ยังลายเซ็นที่จะเปลี่ยนอีก
 กลับรู้สึกเฉย ๆ ... ไม่ยักเหมือนที่ไปรอดักถ่ายรูปพระอาจารย์ขากลับจากบิณฑบาตเลย
 ...ใคร ๆ เขาเลิกถ่ายแล้ว ยายก็ยังไปดักทุกที คงชอบตรงที่ต้องเดินให้พอดีกับแถวพระที่ไล่หลังมา
 (มีใครรู้ไหมนี่ว่า ยายเดินดูดีเชียว แต่ยังทั้ง 'เมา' ทั้ง 'กลัว' ข้ามสะพานแขวนอยู่ ๕๕๕)
 
 อะไรต่ออะไรที่ดี ๆ ทยอยได้มาเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่ไปบวช... รออ่านของท่านอื่นด้วย
 ...สรุปว่า รู้สึกงง ๆ ว่า นี่ตูมาบวชได้อย่างไรนี่..?
 
				__________________การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
 ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
 กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน
 อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
 กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-12-2011 เมื่อ 02:46
 |