ดังนั้น..ในส่วนของการปฏิบัติตามกติกาเพื่อจะไปสู่พระนิพพาน ก็ต้องเอาตามแบบที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านได้สอนเอาไว้ คือให้เคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างแน่นแฟ้นจริงจัง ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
ให้รักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตัวเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล และไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล ท้ายสุดเป็นการใช้ปัญญา ก็คือรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย ถ้าหากว่าตายเราขอไปพระนิพพานแห่งเดียวเท่านั้น ถ้ากำลังใจของเรามั่นคงอย่างนี้ ก็ให้จับลมหายใจเข้าออกภาวนาต่อไป เพื่อสร้างความเข้มแข็งมั่นคงให้กำลังใจยิ่ง ๆ ขึ้นไป
สำหรับตอนนี้ก็ให้ทุกคนกำหนดใจจดจ่ออยู่กับลมหายใจและคำภาวนาของตน ผู้ใดจับภาพพระ ก็ให้ภาพพระไหลตามลมหายใจเข้าออกของตนไป หรือท่านที่ยกจิตไปเกาะพระนิพพาน ก็ให้แน่วแน่มั่นคงกับภาพพระบนพระนิพพานนั้น ถ้ายังมีลมหายใจอยู่ เราก็กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกไปด้วย มีคำภาวนาอยู่ก็ให้กำหนดคำภาวนาไปด้วย ถ้าหากว่าไม่มีลมหายใจ ไม่มีคำภาวนา ก็กำหนดรู้อยู่ว่าตอนนี้ไม่มีลมหายใจ ตอนนี้ไม่มีคำภาวนา
อย่าอยากให้เป็นอย่างนั้น และอย่าอยากให้หายจากอาการอย่างนั้น เราทำตัวเหมือนคนดูที่อยู่ห่าง ๆ มีหน้าที่รับรู้เอาไว้เท่านั้นเป็นพอ สภาพจิตจะค่อย ๆ ดิ่งลึกเข้าไปสู่องค์สมาธิเบื้องสูงมากกว่านั้น ลำดับนี้ก็ให้ทุกคนภาวนาและพิจารณาไปตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้ยินเสียงสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันอาทิตย์ที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 26-11-2011 เมื่อ 21:01
|