ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 25-11-2011, 08:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,638 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับตัวอย่างอีกส่วนหนึ่งก็คือในช่วงที่ทำงาน อาตมาจะมีเวลาพักตั้งแต่ตอนเที่ยงถึงบ่ายโมงเท่านั้น เนื่องจากว่าเป็นงานที่ทำกันเองในครอบครัว ก็จะเริ่มตั้งแต่ ๖ โมงเช้า ได้พักกินข้าวกลางวันก็ตอนเที่ยง บ่ายโมงเริ่มต่อ แล้วไปเลิกเอาตอน ๖ โมงเย็น

ในระหว่างที่ทำงานสมาธิต้องจดจ่ออยู่กับงาน เพราะว่างานที่ทำคือการซ่อมรถ โดยเฉพาะการทำสีรถ ถ้าเผลอเมื่อไรจะเกิดความเสียหายขึ้น โดยเฉพาะตอนขัดสี สมัยก่อนไม่มีเครื่องขัดเหมือนสมัยนี้ ต้องขัดด้วยมือ ถ้าเผลอสติหน่อยเดียวก็จะทะลุจากพื้นผิวเข้าไปถึงสีชั้นใน ก็คือถึงสีรองพื้น เกิดตำหนิขึ้นมา ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องเริ่มมาทำใหม่ ซ่อมใหม่ เสียเวลาแล้วก็เปลืองวัสดุอุปกรณ์มากขึ้น

ทำให้ต้องทุ่มเทสติสมาธิอยู่กับงานตลอดเวลา ทำให้คิดว่าไม่ได้ภาวนา เพราะตอนนั้นไม่รู้ว่าสมาธิที่อยู่กับงานเป็นการภาวนาอยู่แล้ว ก็ต้องฉวยเวลาที่มีประมาณ ๑ ชั่วโมงตอนพักกลางวัน รีบกินอาหารกลางวันอย่างเร็วที่สุด ก็คือไม่เกิน ๑๐-๑๕ นาที เสร็จแล้วใช้ระยะเวลาที่เหลือในการภาวนา

นี่คือตัวอย่างว่า ถ้าเราเกิดฉันทะคือความพอใจขึ้นแล้ว ก็ต้องมีวิริยะคือความพากเพียรตามมาด้วย เพราะว่าจิตตะ คือกำลังของเราปักมั่นแน่วแน่ต่อเป้าหมายแล้ว เรามั่นใจแล้วว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีแน่ ก็ทุ่มเทให้สิ่งนั้นไป สำคัญที่สุดคือวิมังสา คือการไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอ จะช่วยให้เราได้รู้ว่าเราทำอะไร เพื่ออะไร ขณะนี้ทำไปถึงไหนแล้ว ยังเหลืออีกมากน้อยเท่าไร ตรงตามเป้าประสงค์แต่แรกหรือไม่ การทบทวนอย่างนี้จะทำให้เราปฏิบัติได้ไม่ผิดพลาด ตรงต่อเป้าหมาย และสัมฤทธิ์ผลตามที่ปรารถนาได้โดยง่าย

ดังนั้นใน ๒ วันที่ผ่านก็ได้กล่าวถึงสภาวะจิตใจที่ต้องเครียดจากน้ำที่ท่วมเข้ามาทุกทิศทุกทาง แต่เราจะทิ้งการปฏิบัติไม่ได้ เพราะการปฏิบัติคือตัวผ่อนคลายความเครียดที่ดีที่สุด แล้วให้เราทุ่มเทกับการปฏิบัติโดยรักษาสภาพจิตให้มั่นคงอยู่ในอิทธิบาทธรรมทั้ง ๔ ก็คือฉันทะมีความพอใจที่จะปฏิบัติในธรรมะเหล่านี้ วิริยะมีความพากเพียรทุ่มเทให้กับการปฏิบัติโดยไม่ย่อท้อ จิตตะมีความแน่วแน่ต่อเป้าหมาย ไม่แปรผันเป็นอื่น วิมังสามีการไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอว่าเราทำอะไร ไปถึงจุดใดแล้ว

ถ้าหากว่าทุกคนสามารถทำตรงนี้ได้ ความเจริญก้าวหน้าในการปฏิบัติก็จะปรากฏให้เห็น และโดยเฉพาะว่าพวกเราทั้งหมดตั้งความปรารถนาเอาไว้ว่าเรามีพระนิพพานเป็นที่ไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-11-2011 เมื่อ 17:18
สมาชิก 56 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา