นอกจากนี้ก็แค่เข้าไปนอนในบ้านช้าง ช้างสร้างที่นอนได้สุดยอดเลย เขาจะดึงเอาหญ้ามาทำที่นอนกลม ๆ กว้างประมาณ ๒ เมตร หนาสักศอกกว่า ๆ ตัวละอัน ๆ เต็มไปหมด อาตมาเห็นก็ขอยืมมานอนก่อน เคยบอกกับพระที่ไปด้วยว่า ดูภูมิประเทศรอบ ๆ ไว้ด้วย ถ้าเห็นว่าต้นไม้ต้นไหนพอขึ้นได้ ถ้าช้างมาคุณหนีขึ้นไปข้างบน แต่ให้เอาน้ำขึ้นไปด้วย เพราะถ้าช้างล้อมอยู่นานเดี๋ยวจะหิวน้ำแย่ พระท่านถามว่า ในเมื่อเรามอบกายถวายชีวิตแล้ว ทำไมต้องหนีอีก ? พวกเจ้าปัญหา..! อาตมาจึงว่า คุณมอบกายถวายชีวิตต่อพระรัตนตรัย แต่ไปกับอาจารย์แล้วโดนช้างเหยียบแบนแต๋ พ่อแม่คุณจะมาเฉ่งผมนะสิ..!
ถาม : ที่นอนช้างเหมือนฟูกเลยไหมครับ ?
ตอบ : ดีกว่าฟูกหน่อย แต่ต้องระวัง..บางทีก็มีเห็บป่าอาศัยอยู่ โดนกัดเมื่อไรไข้จับเมื่อนั้น ให้เอาผ้ากันฝนปูกันไว้ก่อน พอตอนกลางคืนช้างกลับมาเข้าบ้านไม่ได้ ก็หากินอยู่ในป่าข้าง ๆ หักต้นไม้โผงผางไปหมด อาตมาก็นอนจนกระทั่งสว่าง ฉันเช้าเสร็จแล้วถึงได้ไป เดินไปจนกระทั่งใกล้ ๆ เพล ได้ยินเสียงฝีเท้าไล่เท้ากวดตามมา จึงหยุดรอ ปรากฏว่าเป็นพิทักษ์ป่า ๕ คน ถือลูกซองห้านัด ๓ คน ถือเอชเค ๒ คน
มาถึงก็ถามว่า "อาจารย์หรือเปล่าครับ ที่เข้าไปตรงบ้านช้างเมื่อคืน ?" อีกคนหันมาพูดว่า "ผมบอกหัวหน้าแล้ว อาหารกระป๋องมีห่วงแบบนี้ ถ้าไม่ใช่พวกล่าสัตว์ก็ต้องเป็นพระ" ก็เป็นพระจริง ๆ ด้วย เพราะฝาเครื่องกระป๋องของพวกเราเป็นห่วง เขาบอกว่า "พระอาจารย์นอนกันเข้าไปได้อย่างไร พวกผมมีอาวุธครบมือยังกลัวเลย ?" ก็เอ็งเสือกไปนึกถึงช้างเองนี่หว่า..! สำหรับอาตมาถ้าช้างอยู่ก็แปลว่าเสือไม่มี ไม่ต้องกลัว เพราะสัตว์ทุกชนิดจะตื่นคนอยู่แล้ว ได้กลิ่นก็ไม่เข้ามาหรอก เพราะเราก่อไฟไว้ เขาได้กลิ่นแต่ไกล คงจะหงุดหงิดไปอยู่พักหนึ่งเหมือนกัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 27-11-2011 เมื่อ 17:10
|