มีโยมผู้หญิงคนหนึ่งโดนน้ำมันพราย ลักษณะที่ป้ายตัวแบบนี้แหละ แต่โยมผู้หญิงท่านนั้นดวงดีสุด ๆ เลย คือเขาเข้ามาถึงแล้วจับข้อมือถามว่า “น้อง..เวลาเท่าไรแล้ว?” แต่จริง ๆ แล้วเขาป้ายน้ำมันพราย โยมผู้หญิงเขาก้มลงดู ปรากฏว่าโยมเขาแขวนพระรอดอยู่ พระแปะลงบนรอยป้ายพอดี แล้วมีควันขึ้นกลิ่นเหมือนผีตาย เขารู้ตัวทันทีเลยว่าโดน อันนี้ต้องบอกว่าคนดีพระคุ้มจริง ๆ วันนั้นถ้าเขาไม่ห้อยพระนอกเสื้อก็ช่วยไม่ได้เหมือนกัน
เวลาหลวงพ่อวัดท่าซุงเป่ายันต์เกราะเพชร ท่านจะแนะนำไว้ว่าเพื่อความปลอดภัยให้ปลุกยันต์ทุกวัน ดังนั้น..เรื่องของวัตถุมงคลให้อาราธนาเอาไว้ทุกวัน ถ้าหากว่ากลัวพลาดก็อาราธนาเช้าเย็นไปเลย คาถาอาราธนาของสายหลวงพ่อวัดท่าซุงหลัก ๆ ก็ อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะจงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะอุ นี้เถิด อันนี้หลัก ๆ แต่วัตถุมงคลบางชนิดมีคาถากำกับต่างหากเราก็ว่าต่อไป
ถ้าหากว่าเราปลุกอย่างนี้ไว้ทุกวันก็ปลอดภัยค่อนข้างแน่ แต่อย่าเผลอนะ บางทีเราเผลอถอดออกตอนอาบน้ำ สมัยอาตมาเป็นฆราวาสใส่สร้อยสเตนเลส จะใส่อาบน้ำไปเลย สมัยหลวงปู่ปานท่านยังเคยโดนเลย ท่านเอาพระใส่กระเป๋าอังสะไว้ ตอนนั้นเป็นช่วงของวาระกรรมเปิดพอดี ท่านถอดอังสะแขวนไว้ข้างฝาเพื่อที่จะสรงน้ำ โดนเข้าตอนนั้นหงายท้องเลย องค์ปรมาจารย์ยังโดน แล้วเราจะรอดไหม ? จึงต้องระมัดระวัง อาราธนาพระเอาไว้ทุกวัน
อาตมาเองรับยันต์เกราะเพชรใหม่ ๆ มองวันไหนก็เห็นยันต์เกราะเพชรสว่างใสอยู่ในท้อง ไปไหนก็ไปตัวเปล่า ลุยกระจาย จนกระทั่งหลวงพ่อท่านบอกไม่ให้ประมาท พกพระเอาไว้บ้าง
หลวงพ่อท่านเมตตาบอกว่า "ถ้าแกไม่เผลอ กำลังใจทรงตัวอยู่ก็รอด แต่ถ้าวันไหนเผลอแกจะโดน ยันต์เกราะเพชรไม่ได้กันไสยศาสตร์ไม่ให้ทำอันตรายอย่างสิ้นเชิง ถ้าวาระกรรมหนักมา จะกันไม่ให้ตายจากไสยศาสตร์เท่านั้น ต้องโดนบ้างเหมือนกัน"
ท่านเปรียบว่าเหมือนกับคนเขาก่อกองไฟใหญ่เอาไว้ มีวัสดุมากั้นระหว่างเรากับกองไฟ วัสดุนั้นคือยันต์เกราะเพชร ถ้ากองไฟนั้นใหญ่มาก ความร้อนก็ยังผ่านวัสดุมาถึงเราได้ แต่ว่าเปลวไฟไม่สามารถที่จะทำอันตรายเราได้ ดังนั้น..วิธีที่ปลอดภัยที่สุดก็คือภาวนาไว้ทั้งวัน..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2011 เมื่อ 01:28
|