ดูแบบคำตอบเดียว
  #63  
เก่า 21-10-2011, 09:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,745
ได้ให้อนุโมทนา: 152,164
ได้รับอนุโมทนา 4,420,327 ครั้ง ใน 34,335 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อัมพะ คือมะม่วง วน คือป่า ดังนั้น..อัมพวัน คือ ป่ามะม่วง วัดอัมพวันเป็นวัดในสมัยพุทธกาล

เวฬุวัน คือป่าไผ่ ลัฏฐิวันคือป่าตาล เชตวัน คือป่าของเจ้าเชต อนาถบิณฑิกเศรษฐีไปขอซื้อที่จากเชตราชกุมาร เนื่องจากเชตราชกุมารมีเชื้อสายกษัตริย์ ฐานะไม่ได้ยากจน ก็ไม่คิดขาย แต่ถ้าจะซื้อที่ก็ให้อนาถบิณฑิกเศรษฐีเอาเงินมาปูให้เต็มพื้นที่ ไม่ใช่ปูเแบบธรรมดานะ ที่ไหนเป็นหลุมเป็นบ่อก็เอาเงินมาเกลี่ยให้เรียบเสมอกัน

อนาถบิณฑิกเศรษฐีสั่งคนใช้ให้เอาเกวียนทุกเล่มที่มีไปขนเงินในคลัง แล้วมาปูให้เต็มพื้น ปรากฏว่าเหลือพื้นที่ตรงหน้าประตู เชตราชกุมารดูแล้วคิดว่า เงินเยอะขนาดนี้คงไม่มีปัญญาใช้หมดแล้ว เหลือที่ตรงนี้ยกให้ฟรีก็แล้วกัน อนาถบิณฑิกเศรษฐีก็ใจป้ำ ในเมื่อให้พื้นที่ตรงนี้ฟรีก็เลยสร้างซุ้มประตูและตั้งชื่อว่าเชตวัน

วัดเชตวัน คือวัดที่เป็นป่าของเชตกุมาร สมัยนี้มีใครซื้อที่ด้วยวิธีนี้บ้างไหม ? เอาเงินปูให้เต็มพื้นที่ถึงจะได้ที่ไปเป็นของตนเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-10-2011 เมื่อ 10:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา