ถ้าสามารถที่จะเพิ่มระยะเวลาในการปฏิบัติให้มากขึ้น กำลังใจที่จะทรงตัวผ่องใสก็มีมากขึ้น ทำให้ท่านทั้งหลายมีความสุขในปัจจุบันมากขึ้น เพราะว่าจิตสงบจากรัก โลภ โกรธ หลง และขณะเดียวกัน ถ้ากำลังใจทรงตัวตั้งมั่นจริง ๆ ความสุขในอนาคตคือ หวังสุคติเป็นที่ไปได้อย่างแน่นอน
แล้วเราก็นำเอากำลังสมาธินี้มาใช้ในการพิจารณาตัดกิเลส โดยมองให้เห็นชัดว่าสภาพร่างกายของเราก็ดี ของคนอื่นก็ดี ของสรรพสิ่งทั้งหลายก็ดี มีการเกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง สลายไปในที่สุด ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอนให้ยึดมั่นถือมั่นได้เลย
สภาพร่างกายของเราก็ดี ของคนอื่นก็ดี ของสัตว์อื่นก็ดี ระหว่างที่ดำรงชีวิตอยู่ก็ประกอบไปด้วยความทุกข์เป็นปกติ ทุกข์ของการเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย การพลัดพรากจากของรักของชอบใจ การปรารถนาไม่สมหวัง การกระทบกระทั่งอารมณ์ที่ไม่ชอบใจ หรือความทุกข์ของการหิว การกระหาย การร้อน การหนาว การเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นต้น มีอยู่กับเราตลอดเวลา ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาเพื่อมีความทุกข์เช่นนี้เราไม่พึงปรารถนามันอีก เราต้องการอย่างเดียวคือหลุดพ้นจากความทุกข์ไปสู่พระนิพพาน
ท้ายสุดก็ต้องพิจารณาให้เห็นจริงให้ได้ว่า อัตภาพร่างกายนี้ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา มันประกอบขึ้นมาจากธาตุ ๔ คือดิน น้ำ ไฟ ลม รวมกันเป็นเครื่องให้เราอาศัยอยู่ชั่วขณะหนึ่ง เมื่อถึงเวลาก็เสื่อมสลายตายพังไปตามสภาพ ไม่อาจยึดถือมั่นหมายเป็นตัวตนเราเขาได้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาในร่างกายที่ไม่มีส่วนใดเป็นเราเป็นของเราเลยอย่างแท้จริงเช่นนี้ จะไม่มีสำหรับเราอีก เราต้องการอย่างเดียวคือพระนิพพาน
แล้วให้เอาใจสุดท้ายของเราเกาะพระนิพพานหรือเกาะภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ให้มั่น ถ้ายังมีลมหายใจอยู่ให้กำหนดรู้ในลมหายใจเข้าออก ถ้ามีคำภาวนาอยู่ให้กำหนดรู้ในคำภาวนา
ถ้าไม่มีลมหายใจเข้าออกไม่มีคำภาวนา ให้กำหนดจิตนิ่งรู้อยู่เฉย ๆ อย่างนั้น อย่าอยากให้เป็น อย่าอยากให้หาย อย่าอยากให้ก้าวหน้า และอย่ารำคาญที่สภาพจิตไม่เคลื่อนคล้อยไปที่ไหน ถ้าหากสามารถวางกำลังอย่างนั้นได้ สมาธิจะทรงตัวตั้งมั่นยิ่งขึ้นจนถึงที่สุดของรูปฌานคือ ฌาน ๔ ขอให้ทุกคนรักษากำลังใจเอาไว้อย่างนี้ จนกว่าจะได้ยินเสียงสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๔
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2011 เมื่อ 11:29
|