เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๔
ให้ทุกคนขยับตัวนั่งในท่าที่สบายของเราจ้ะ นั่งตัวตรงแต่ไม่ใช่เกร็งตัว หลับตาลงเบา ๆ ปิดปากสนิทแต่ไม่ใช่ขบฟัน กำหนดความรู้สึกทั้งหมดอยู่ที่ลมหายใจเข้า..ลมหายใจออก
หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไปพร้อมกับคำภาวนาที่เราถนัด หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมาพร้อมกับคำภาวนาที่เราถนัด ใครมีความคล่องตัวชำนิชำนาญมาก จะกำหนดภาพพระไปพร้อมกันก็ได้ หรือยกจิตขึ้นพระนิพพานไปกราบพระเลยก็ได้
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๔ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานวันที่สองของต้นเดือนนี้ พวกเราทั้งหลายถือว่าเป็นบุคคลที่มีโชคอย่างยิ่งที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังธรรมแล้วน้อมนำมาปฏิบัติ เพื่อความสุขของตนเองทั้งในปัจจุบัน ในอนาคต และประโยชน์สุขสูงสุด คือหลุดพ้นไปสู่พระนิพพาน
ในเมื่อพวกเราทั้งหลายเกิดมาพร้อมกับความโชคดีเห็นปานนี้แล้ว เราก็ต้องรักษาความโชคดีของเราเอาไว้ การที่เราจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้นต้องถือว่าเรามีต้นทุนมาเพียงพอ ถ้าต้นทุนไม่พอ เราก็ไม่มีโอกาสได้เกิดเป็นมนุษย์อย่างแน่นอน ต้นทุนของการเกิดเป็นมนุษย์คือศีล ๕ ศีล ๕ นั้นบางทีก็เรียกว่ามนุสสธรรม คือธรรมที่ทำให้เป็นมนุษย์ ถ้าศีล ๕ บกพร่อง โอกาสที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์ก็ไม่มี
นอกจากนี้พวกเราทั้งหลายก็ยังโชคดีที่เกิดมาทันศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีโอกาสได้ฟังธรรมแล้วก็นำมาปฏิบัติให้เกิดผล ในส่วนของการปฏิบัตินั้นก็คือการปฏิบัติในศีล ในสมาธิ ในปัญญา ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสอนเอาไว้
ศีล สมาธิ ปัญญานั้น ถ้าหากว่าเรามาทบทวนกันเบื้องต้น ก็ต้องดูที่ศีลก่อน ว่าในขณะนี้เราทั้งหลายนั้นมีศีลทั้ง ๕ สิกขาบทหรือ ๘ สิกขาบทสมบูรณ์บริบูรณ์หรือไม่ ? เราเป็นผู้ล่วงศีลด้วยตนเองบ้างหรือไม่ ? ถ้าเราไม่ล่วงศีลด้วยตนเองแล้ว เรายุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นล่วงศีลบ้างหรือไม่ ? เมื่อเราไม่ล่วงศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นล่วงศีลแล้ว เราเห็นผู้อื่นล่วงศีลเรายินดีบ้างหรือไม่ ? นี่เป็นสิ่งที่เราต้องทบทวนกันอยู่ทุกวัน
ถ้าศีลของเรามีข้อใดที่บกพร่อง ให้ตั้งใจว่าตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะรักษาศีลทุกสิกขาบทให้สมบูรณ์บริบูรณ์ ไม่ให้บกพร่องอีก ทันทีที่เราตั้งใจว่าเราจะรักษาศีลให้สมบูรณ์บริบูรณ์ ก็แปลว่า เรามีศีลทุกสิกขาบทสมบูรณ์บริสุทธิ์บริบูรณ์ตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นไป สิ่งที่เคยล่วงมาแล้วเราไม่ไปคำนึงถึง เราจะระมัดระวังเฉพาะในปัจจุบันด้วยการรักษาศีลให้ดี
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-09-2011 เมื่อ 03:20
|