พระอาจารย์ท่านพูดให้ฟังอยู่ว่า "ผมเองก็ไม่ได้เก่งอะไรหรอก เพียงแต่การตอบคำถามของผม เป็นการตอบเพื่อยืนยันการปฏิบัติที่พวกเขาทำมาแล้ว รู้มาแล้ว ให้มั่นใจยิ่งขึ้นก็แค่นั้นเอง ความจริงเขาก็ทำกันได้อยู่ แต่ไม่รู้เป็นอย่างไรกัน ไม่ค่อยมีความมั่นใจกันเลย"
คล้ายกับคำถามที่ว่า "ผมปรารถนาพุทธภูมิ ผมจึงอธิษฐาน ขอคำว่า "ลา" จงอย่าเกิดขึ้นกับข้าพเจ้าอีก จะถูกต้องไหมครับ ?" ดูคนถามจะภูมิใจเล็ก ๆ แต่คำตอบที่ได้ กลับเหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงกลางกระหม่อม พระอาจารย์ตอบว่า "กำลังใจยังห่วยแตกมาก..!"
คราวนี้คนถามหน้าถอดสีไปหน่อย แล้วท่านก็อธิบายว่า "คนที่ปรารถนาพุทธภูมินั้น ถ้าบารมีเข้มข้นจริง ๆ เขาไม่มามัวนั่งกลัวการลาหรอก เขาเห็นว่าการเกิดเป็นขนมหวานของเขาอยู่แล้ว มีอะไรก็ตั้งหน้าตั้งตาทำไปเดี๋ยวก็ถึง" อย่างนี้เป็นต้น
พวกเราก็เช่นกันในฐานะนักปฏิบัติ ไม่ต้องห่วงหน้าห่วงหลัง ก็คืออดีตและอนาคต สนใจแต่เรื่องของปัจจุบันก็พอ พยายามอยู่กับลมหายใจของเราให้มาก จงมั่นใจว่าสิ่งที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนนั้น ท่านทำมาหมดแล้ว จึงเอาผลที่งดงามมาให้ ไม่ผิดแน่ พวกเราถือว่าเป็นผู้ที่โชคดีที่สุดแล้ว ไม่ต้องไปลองผิดลองถูกเอง เหลือแต่ทำอย่างเดียวเท่านั้น เพื่อความสุขของตัวเราเอง
ด้วยความปรารถนาดี
พระเมตตา
๔ ตุลาคม ๒๕๔๙
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2011 เมื่อ 03:13
|