พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า "ในเรื่องของผ้าไตรจีวรนั้น ภาษาพระเรียกว่าผ้าบังสุกุล
ปังสุกุละ แปลว่า ผ้าเปื้อนฝุ่น ผ้าคลุกฝุ่น คือผ้าที่เขาทิ้งแล้ว สมัยก่อนพระภิกษุสงฆ์ถือว่าเป็นผู้สละแล้วซึ่งทรัพย์สมบัติทั้งปวง มีแต่ตัวเปล่า ก็ต้องไปแสวงหาผ้าเพื่อทำจีวร ต้องเป็นผ้าที่เขาทิ้งแล้ว นำมาซัก มาตัด มาเย็บ มาย้อม กลายเป็นผ้าสำหรับใช้งานของตน
ในสมัยแรก ๆ อยู่ในลักษณะต่างคนต่างทำ รูปแบบที่แน่นอนก็ไม่มี องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้มอบหมายให้พระอานนท์คิดแบบในการทำจีวรให้เหมือนกันขึ้นมา พระอานนท์ได้แนวความคิดขณะที่บิณฑบาตผ่านท้องนา เห็นชาวบ้านเขาทำนา เป็นแปลง มีคันนา ท่านก็เลยมาดัดแปลงเป็นลักษณะของจีวร ซึ่งจะมีผ้าที่เป็นจีวร มีผ้าต่อ มีผ้ากั้น มีผ้าขอบ
ตัวผ้าจีวรก็มีมณฑล ก็คือช่วงที่ยาว และอัฒฑมณฑล ช่วงที่สั้นลงครึ่งหนึ่ง และมีกุสิ ก็คือผ้ากั้นช่วงยาว อัฒฑกุสิ ผ้ากั้นช่วงสั้น และมีอนุวาต ผ้ากั้นขอบ เมื่อออกแบบมา ต้องบอกว่าท่านเป็นยอดของมัณฑกร คิดออกแบบมาสองพันกว่าปีแล้วก็ยังใช้งานได้ดีไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 24-08-2011 เมื่อ 10:07
|