"พอกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญทิวงคต รัชกาลที่ ๕ จึงยกเลิกตำแหน่งวังหน้า แต่งตั้งสยามมกุฎราชกุมารแทน จึงถือว่ากรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ เป็นวังหน้าองค์สุดท้าย
ความจริงสมเด็จพระปิ่นเกล้า ตั้งพระนามกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญว่า "พระองค์เจ้ายอร์ช วอชิงตัน" รัชกาลที่สี่ทรงรำคาญชื่อฝรั่ง จึงเปลี่ยนเป็น "พระองค์เจ้ายอดยิ่งประยุรยศ" ไม่มีอะไรที่ในหลวงรัชกาลที่สี่แก้ไม่ได้ ทรงแก้ได้ทุกอย่าง
แม้กระทั่งภายหลังที่เขาบอกว่า วังหน้าต้องคำสาปของสมเด็จพระราชวังบวรสถานมงคลในรัชกาลที่ ๑ ถ้าไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของท่านแล้ว ใครมายึดวังหน้าไปใช้ก็ขอให้ถึงแก่ความวิบัติฉิบหาย จึงไม่มีใครกล้าไปแตะต้องวังของท่าน รัชกาลที่สี่พิจารณาแล้วจึงส่งลูกไปแต่งงานกับเชื้อสายของวังหน้าในรัชกาลที่ ๑ กลายเป็นญาติ จึงยึดวังไปใช้ได้ จึงกล่าวกันว่า ไม่มีอะไรที่รัชกาลที่สี่ทรงแก้ไม่ได้
รัชกาลที่สี่ตรวจดูดวงเมืองแล้ว พบว่าการผูกดวงเมืองในวันเวลาอย่างนี้ จะอยู่ได้แค่ ๑๕๐ ปีเท่านั้น พระองค์ท่านจึงผูกดวงเมืองใหม่ เพื่อที่จะได้อยู่ยั้งยืนยงต่อไป จึงมีการฝังศาลหลักเมืองซ้ำอีกหนึ่งต้น ฉะนั้น..เราจะเห็นว่าศาลหลักเมืองมีสองต้น ไม่ได้มีต้นเดียว ไม่มีอะไรที่รัชกาลที่สี่แก้ไม่ได้จริง ๆ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-08-2011 เมื่อ 16:07
|