ถาม : หนูก็จะถามอยู่ค่ะ ว่ามีประโยชน์อะไรหรือเปล่า ? แล้วต้องพยายามทรงต่อไปหรือเปล่า ? หรือว่าไม่ต้อง ?
ตอบ : ถ้าหากว่าไม่ช่วยให้จิตใจสะอาดขึ้นก็ไม่ต้องไปใส่ใจ แต่ถ้าหากว่าทำแล้วสภาพจิตใจของเราสงบระงับจากนิวรณ์ ๕ ประการ จากราคะ โลภะ โทสะ โมหะ ชั่วคราวก็ทำได้
ถาม : ตอนป่วยจิตจะไประลึกถึงความตายเองโดยอัตโนมัติ แล้วจิตก็จะนิ่ง ไม่แกว่งเหมือนตอนปกติ แต่จะมีปัญหาตรงที่รู้สึกรำคาญทุกขเวทนาที่เกิดทางกายอยู่
ตอบ : ถ้ายังใส่ใจกับกายอยู่จะเป็นอย่างนั้น อยู่กับลมหายใจเข้าออกแล้วจะลืมไปเอง เพราะลมหายใจเข้าออกเป็นตัวระงับเวทนา
ถาม : มีปัญหาเกี่ยวกับพวกเสียงเพลง ซึ่งเราไม่ได้อยากจะฟังเลยแต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตอนได้ยินก็ยังไม่เป็นปัญหาค่ะ แต่ว่าหลังจากนั้นช่วงที่เราภาวนาไป เสียงเพลงจะคอยรบกวนอยู่ตลอดเลย ยิ่งจะเอาออกยิ่งเอาออกไม่ได้
ตอบ : ให้สังเกตว่าจะมาเฉพาะเพลงที่เราชอบ เพลงที่เราไม่ชอบจะไม่มาติดอยู่ในใจของเรา ถ้าไปดิ้นรนเพื่อตัดออกก็ยิ่งฟุ้งซ่าน
ถาม : เป็นการเปิดวนซ้ำเรื่อย ๆ แล้วจะคอยมา...
ตอบ : ใช่ แต่ว่าเป็นเพลงที่เราชอบ เพราะเพลงที่เราไม่เคยได้ยินมาเราจะไม่ใส่ใจ นั่นแสดงว่าสภาพจิตของเราปรุงแต่งในส่วนที่เราชอบเอาไว้ก่อน โดยการเอาสิ่งที่รับเข้าไปใหม่แต่เป็นส่วนที่ชอบนั่นแหละกลับมาฉายซ้ำ ถ้าเกิดว่าเผลอไปคิดตาม เราก็จะทิ้งความดีที่เราทำไว้ อันนี้ถือว่าอันตราย ต้องรีบสลัดออกไปไว ๆ แล้วมาอยู่กับลมหายใจเข้าออกใหม่
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-07-2011 เมื่อ 02:10
|