พระอาจารย์กล่าวว่า "หนังสือมุตโตทัย หลวงพ่อวิริยังค์ท่านเป็นคนเขียน ท่านรวบรวมสิ่งที่หลวงปู่มั่นสอนแล้วเรียบเรียงขึ้นมาเป็นหนังสือเล่มนี้ เพราะฉะนั้น..ที่เขาบอกว่ามุตโตทัยเป็นของหลวงปู่มั่นนะใช่ แต่ว่าหลวงพ่อวิริยังค์เป็นคนรวบรวมทำให้เป็นเล่มขึ้นมา
จริง ๆ แล้ว ถ้าพวกเราปฏิบัติกันจริงจังแบบสายหลวงปู่มั่นก็คงบรรลุกันหมดแล้ว เพราะว่าเรามีโอกาสฟังธรรมอยู่ตลอดเวลา สมัยของหลวงปู่มั่น ถ้าไม่ใช่เป็นการสอบถามเฉพาะตัว ท่านก็จะเทศน์สอนเฉพาะวันพระ หรือเวลาที่มีลูกศิษย์เดินทางมาจากที่อื่น มากราบ มาสอบถามแนวทางปฏิบัติ แต่ก็ไม่ใช่เป็นสาธารณะอย่างนี้ บางทีก็มากัน ๒-๓ รูป อย่างเก่งก็ ๕ รูป ได้ฟังกันแค่นั้น
สมัยหลวงปู่มั่นยังมีชีวิตอยู่ ตอนนั้นหลวงพ่อวิริยังค์ยังเป็นสามเณร มีหน้าที่ต้มน้ำถวายพระผู้ใหญ่ พอท่านเอาฟืนใส่เตา ใส่น้ำในหม้อดินเสร็จเรียบร้อย สามเณรวิริยังค์ก็ย่องไปอยู่ใต้ถุน แอบฟังว่าหลวงปู่มั่นท่านกล่าวถึงธรรมอะไร
เวลาฟังต้องตั้งใจฟัง เพราะว่าพระปฏิบัติท่านจะพูดเบา แบบสมัยก่อนที่หลวงปู่แหวนพูด อาตมาต้องเงี่ยหูฟังเลย ถ้าไม่ตั้งใจก็ไม่ได้ยินว่าท่านพูดว่าอะไร ในเมื่อสามเณรตั้งใจเงี่ยหูฟังว่าหลวงปู่มั่นท่านพูดอะไร ผลปรากฏว่าฟังเพลิน น้ำในหม้อแห้ง พอหม้อดินที่ตั้งอยู่บนเตาไฟไม่มีน้ำ หม้อดินก็แตก สามเณรวิริยังค์ก็ขวัญหนีดีฝ่อ กลัวโดนลงโทษ ปรากฏว่าหลวงปู่มั่นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2011 เมื่อ 16:19
|