ดูแบบคำตอบเดียว
  #175  
เก่า 07-07-2011, 07:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,281 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมัยวัยรุ่น อาตมาซ้อมมวยกับพระครูแสง เขาเล่นเพาะกายกินนมทีละ ๒ ลิตร กินไข่ครั้งละ ๑๒ ฟอง ตัวเขาใหญ่กว่าอาตมาเท่าครึ่งได้ เวลาซ้อมมวยกันจริง ๆ อาตมาไม่ถอย ยิ่งเจ็บยิ่งตื๊อสู้ ไม่เลิก พอตื๊อไปตื้อมา เขาก็ไม่เอาแล้วเพราะเจ็บ ความจริงถ้าเขาซัดมาอีกที อาตมาก็ไม่เอาแล้วเหมือนกัน อึดมากกว่าเขาแค่ทีเดียว..!

เพราะฉะนั้น..นิสัยอย่างนี้บอกถึงการปฏิบัติเหมือนกัน ตอนเป็นฆราวาสเจ็บเท่าไรก็สู้ เวลาปฏิบัติจะหกล้มหกลุกขนาดไหนไม่เคยหนี ตั้งใจทำให้ได้พระโสดาบัน ตั้งใจเอาปฐมฌานให้ได้ ในเมื่อตั้งใจจะทำปฐมฌานให้ได้ ก็ตั้งหน้าตั้งตาทุ่มเท สามปีเต็ม ๆ กว่าจะทรงปฐมฌานได้ ถ้าเป็นพวกเราตั้งใจทำอยู่ ๓ ปีแล้วยังไม่ได้อะไรเลย จะทำต่อกันไหม ?

อาตมาทำไปจนกระทั่งเกิดเบื่อเต็มที ตอนนั้นจะได้หรือไม่ได้ก็ช่าง เรามีหน้าที่ภาวนา แค่นั้นแหละได้เลย ก่อนหน้านั้นไปตามจี้ ตอนนี้วิตกนะ ตอนนี้วิจารนะ ตอนนี้ปีตินะ เดี๋ยวก็จะถึงสุข ไปตามดูอย่างนั้นกลายเป็นฟุ้งซ่าน จิตไม่รวมตัวเป็นเอกัคตารมณ์เสียที เมื่อเป็นอย่างนั้นปีแล้วปีเล่าก็ไม่ได้อะไร

คราวนี้ขั้นตอนต้นทำถูก วิตก..เรานึกอยู่ว่าจะภาวนา วิจาร..ภาวนาอย่างไร ? ลมหายใจแรงหรือเบา ? ยาวหรือสั้น ? ก็รู้อยู่ ปีติ..อาการที่เกิดขึ้นก็ใช่ แล้วทำไมไม่สุข ? ไม่เอกัคตารมณ์ ? เพราะเราไปจ้องดู อยากเห็นขั้นตอนชัด ๆ กลายเป็นฟุ้งซ่าน อารมณ์ไม่รวมตัว ก็เลยไม่ทรงตัวสักที พอวันนั้นเบื่อขึ้นมา ตั้งใจว่าอย่างไรก็ช่าง เรามีหน้าที่ภาวนา แล้วก็ได้เลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2011 เมื่อ 16:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 132 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา