"จริง ๆ แล้วเป็นฆราวาสง่ายกว่ามาก สมมติว่าเราจะเดินบนเส้นทางไปสู่พระนิพพาน ของฆราวาสมีหลุมอยู่ ๕ หลุม หลบซ้ายเลี่ยงขวาก็พ้นแล้ว แต่ของพระมีตั้ง ๒๐๐ กว่าหลุม ยากกว่ากันไม่รู้กี่เท่า ถ้าไม่ใช่ประเภทกำลังใจเด็ดเดี่ยว ยอมเสี่ยงนรกเพื่อบวชได้ ก็ใช้วิธีเป็นเจ้าภาพบวชคนอื่นดีกว่า ปลอดภัยกว่ากันเยอะเลย
ส่วนใหญ่แรก ๆ บวชเข้ามาก็ตั้งใจทำดีทุกคน แต่พออยู่นานไป เริ่มมีชื่อเสียงเกียรติคุณขึ้นมา ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ไหลมาเทมา ก็จะเริ่มเสียตรงนี้แหละ ถ้าสติสัมปชัญญะไม่พอ ก็มักจะเสียผู้เสียคน
ดังนั้น..ในเรื่องของการบวชพระจึงต้องระมัดระวังตัวเป็นอย่างสูง ถึงเวลา ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เข้ามา ต้องมีสติสัมปชัญญะว่าเราเป็นใคร ? กำลังทำอะไร ? ถ้าไม่มีสติเดี๋ยวก็ไหลตามกระแสไป แรก ๆ ก็ทำทุกอย่างเพื่อความเจริญของพระศาสนา เมื่อโดนกระแสโลกชักนำก็จะเผลอ กลายเป็นว่าทำเพื่อความสุขความสบายของตัวเอง
หลายท่านพอไปถึงระดับหนึ่งก็เริ่มทำกุฏิที่นอนดี ๆ ของตัวเอง ซื้อรถดี ๆ ของตัวเอง กลายเป็นว่าเจตนาเดิมที่ตั้งใจทำความดีก็แปรไป แต่ก็มีจำนวนหนึ่งที่ญาติโยมตั้งใจสร้างถวายหรือว่าซื้อรถดี ๆ ถวายท่าน นั่นคนละอย่างกัน แต่ถ้าทำเพื่อตัวเอง อย่างนั้นน่ากลัวมาก ถึงเวลาโดนลงโทษนี่สาหัสแน่ ๆ "
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-07-2011 เมื่อ 02:58
|