ดูแบบคำตอบเดียว
  #140  
เก่า 30-06-2011, 20:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,326 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระเจ้าปายาสิเชื่อว่าคนตายแล้วสูญ จึงสั่งให้นำคนมาชำแหละหาวิญญาณ ก็คือหาดวงจิต หาเท่าไรก็ไม่เจอดวงจิต พระกุมารกัสสปะจึงอธิบายโดยเปรียบว่า อาจารย์บอกลูกศิษย์ให้รักษากองไฟเอาไว้ ลูกศิษย์มัวแต่ไปเล่นกันจนเพลิน พอไฟดับ ทีนี้ไม่รู้วิธีจุดไฟ ก็เลยเอาขวานมาผ่าฟืนเพื่อหาไฟ เพราะไฟเกิดจากฟืน..ใช่ไหม ? แต่ไฟไม่ได้อยู่ในฟืน หาไปคงจะเจอหรอก

ตอนที่พระเจ้าปายาสิเปรียบเทียบได้เจ็บปวดที่สุด ก็คือ "ญาติมิตรสาโลหิตที่สนิทสนมกัน พอใกล้ตายโยมก็ไปสั่งไว้ว่า ถ้าตายแล้วลงนรกให้มาบอกด้วย แต่ไม่มีใครมาบอกเลย โยมจึงเชื่อว่าตายแล้วสูญ"

พระกุมารกัสสปะกล่าวว่า "ดูก่อนมหาบพิตร..ถ้ามีนักโทษอุกฉกรรจ์ที่ต้องนำไปตระเวนบก ตระเวนน้ำ อย่างละเจ็ดวัน เป็นการประจานความชั่วแล้วค่อยนำไปประหาร เขาขออนุญาตลากลับบ้านเพื่อไปบอกลูกบอกเมียก่อน พระองค์จะปล่อยไปหรือไม่ ?" พระเจ้าปายาสิบอกว่า "ปล่อยได้อย่างไร ? มีแต่ต้องเร่งประหารเท่านั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2011 เมื่อ 02:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา