ดูแบบคำตอบเดียว
  #108  
เก่า 27-06-2011, 19:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,326 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ก่อนจะเริ่มต้นกองอื่น เราต้องเริ่มซ้อมทบทวนกองเดิมไว้ทุกครั้ง สมัยที่อาตมาฝึกอนุสติ ๑๐ ไล่ตั้งแต่พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ สีลานุสติ จาคานุสติ เทวตานุสติ มรณานุสติ กายคตานุสติ อุปสมานุสติและอานาปานสติ ถึงเวลาก็ต้องไล่ย้อนทวนแต่ละกอง ก่อนที่จะขึ้นกองใหม่

พอทำคล่องก็ไปรายงานหลวงพ่อวัดท่าซุง ไปด้วยความปลื้มใจมากว่า "หลวงพ่อครับ..เดี๋ยวนี้อนุสติ ๑๐ กอง ผมสามารถไล่ครบได้ภายในครึ่งชั่วโมง" หลวงพ่อท่านบอกว่า "ยังใช้ไม่ได้ลูก..ทั้ง ๔๐ กอง ถ้าต้องใช้เวลาถึงสองนาทีนี่แย่มากแล้ว"

ตอนแรกอาตมาไม่เชื่อ ตอนนี้เชื่อแล้ว เพราะอารมณ์ท้ายสุดเป็นฌานสี่เท่ากัน ถ้าเราไปไล่ทีละกองก็โง่ตายชัก แค่ขึ้นฌานสี่ให้เต็มที่แล้วขยับทีละกอง สองนาทีมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ สำคัญตรงที่เราทำคล่องตัวจริงหรือเปล่า ?

แต่คำว่าคล่องตัวจนทรงฌานสี่ได้ ไม่ใช่พระอริยเจ้านะ เพียงแต่ทรงกองกรรมฐานนั้น ๆ เท่านั้น การจะทรงความเป็นพระอริยเจ้า ต่อให้ได้อภิญญาแล้วก็ต้องย้อนกลับมาในส่วนของสุกขวิปัสสโก ก็คือมาดูเรื่องศีล และมาพิจารณาวิปัสสนาญาณ ซึ่งเป็นกำลังของสุกขวิปัสสโกล้วน ๆ เลย

ฉะนั้น..ใครจะว่าเรามาด้านของวิชชาสาม มาด้านอภิญญาหก มาสายปฏิสัมภิทาญาณ ถ้าไม่เลี้ยวมาหาสุกขวิปัสสโก บรรลุไม่ได้หรอก แต่ท่านทั้งหลายที่เป็นตั้งแต่วิชชาสามขึ้นไป กำลังท่านสูง โอกาสบรรลุท่านง่ายกว่า แต่ต้องมาบรรลุด้วยสุกขวิปัสสโก ก็คือ ต้องมาพิจารณาวิปัสสนาญาณทั้งนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-02-2019 เมื่อ 15:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา