ในขณะที่เถรีกำลังนั่งพับเหรียญโปรยทานที่บ้านวิริยบารมี พระอาจารย์จึงกล่าวว่า "กำลังใจของคนทำบุญจริง ๆ จะประณีตและเยือกเย็น คนโบราณเขาจึงค่อย ๆ ถัก ค่อย ๆ ห่อ กว่าจะได้เหรียญแล้วไปโปรยทาน ก็ต้องใช้ระยะเวลาที่นานมาก
สมัยก่อนตอนไปอยู่ที่เกาะพระฤๅษีใหม่ ๆ พรรษาแรก พวกมอญเขาจัดผ้าป่ามาถวาย ผ้าป่าทั้งต้นมีเหรียญห้อยโตงเตงเต็มไปหมด นับแล้วได้ ๑๗๓ บาท แต่อาตมาแจกวัตถุมงคลหมดไปหลายพัน เพราะเขามากันทั้งหมู่บ้าน
ลักษณะอย่างนั้นเราจะไปดูที่จำนวนเงินไม่ได้ ต้องดูกำลังใจที่เขาจะทำบุญจริง ๆ อุตส่าห์จัดมาเสียอย่างดี ตัดกระดาษพับมาอย่างดี ห่อเหรียญห้อยด้ายมา รับปัจจัยในลักษณะอย่างนั้น อาตมาดีใจกว่าคนถวายเงินเป็นล้าน เพราะว่าบางคนถวายเงินมาเป็นล้านแต่กำลังใจยังสู้พวกเขาไม่ได้
เรื่องของงานบุญสำคัญที่กำลังใจในการสละออก เขามีเงินร้อยหนึ่ง สละออกบาทหนึ่ง เท่ากับ ๑ % แล้วนะ ถ้าคนมีเงินพันล้านสละออกล้านหนึ่ง ก็ไม่ถึง ๑% อย่างพวกเขา"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2011 เมื่อ 12:40
|