"ที่บ้านอาตมาสมัยก่อนเป็นเสาไม้ หลังคามุงแฝกมุงจากนั่นแหละ อยู่ไป ๆ มีคนมาขอซื้อเสาไปหมด จึงต้องเปลี่ยนจากไม้มาเป็นตึก ไม้ชุดที่ซื้อไปนั้นเป็นไม้มะเกลือกับไม้ประดู่เลือด ประดู่เลือดบางคนเรียก "ประดู่ส้ม"
คนที่ไม่รู้จักไม้ประดู่เลือด พอเข้าป่าแล้วไปฟันเข้า จะขวัญหนีดีฝ่อเลย เพราะยางไม้ลักษณะเหมือนเลือด พลอยจะไปคิดว่านางไม้แสดงปาฏิหาริย์ให้ดู แก่นประดู่เลือดที่ดี ๆ แกร่งขนาดขวานสับไม่ค่อยจะเข้า
ส่วนมะเกลือเป็นไม้ที่มวลรวมหนักกว่าน้ำ ไม้มะเกลือจะจมน้ำ โยมพ่อเอามาทำเก้าอี้ทำโต๊ะ แม้แต่โต๊ะเก้าอี้เขาก็ขอซื้อไปหมด โต๊ะไม้มะเกลือหนักจนกระทั่งต้องใช้คน ๔ คนยก ทั้ง ๆ ที่เป็นโต๊ะกินข้าวตัวเดียว เพราะมะเกลือมวลรวมหนักมาก
รุ่นหลัง ๆ เขาเอาไม้มะเกลือมาหลอกว่าเป็นพญางิ้วดำกันเยอะ ต้องรู้จักสังเกต ประการแรก คือไม้มะเกลือหนักแต่พญางิ้วดำจะเบา เพราะอย่าลืมว่างิ้วก็คือต้นนุ่น ต้นนุ่นเนื้อจะเบา
ประการที่สองคือ ลายไม้ไม่เหมือนกัน ถ้าเขาบอกงิ้วดำแต่มีลายเหลือง ๆ แทรกอยู่ให้รู้ว่าเป็นมะเกลือ มะเกลือดำก็จริง แต่ดำแล้วก็จะมีลาย ๆ อยู่หน่อย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-06-2011 เมื่อ 20:07
|