ถาม : ฝึกมโนมยิทธิได้แล้ว สามารถเป็นหมอดูได้ ?
ตอบ : ถ้าได้มโนมยิทธิแล้วไปเป็นหมอดู อย่าให้เขาถามเฉพาะหน้าแบบนี้ ถามเฉพาะหน้าแบบนี้จะต้องเก่งเท่าอาตมา เพราะเวลาเขาถามมาก ๆ เราเกิดรำคาญหงุดหงิดขึ้นมา คราวนี้เราจะเสียไปทั้งวันเลย พอจิตมัวตอบอะไรไปก็ผิด..!
หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเคยแนะนำว่า ถ้าจะใช้มโนมยิทธิในลักษณะเป็นหมอดู อย่าไปนั่งต่อหน้าลูกค้า ให้เราอยู่ในห้องพระ แล้วเขาเขียนปัญหาให้คนส่งเข้ามาให้ ถึงเวลากำหนดใจนึกถึงพระ ขอคำตอบแล้วเขียนตอบทีละข้อ จากนั้นส่งคืนเขาไป ถ้าไปเผชิญหน้าให้เขาซักนั่นถามนี่ แล้วอารมณ์ของเราขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่ทรงตัว ก็จะพังในเวลาอันรวดเร็ว
ถาม : เห็นเขาใช้มโนมยิทธิกันผิด ๆ ?
ตอบ : เป็นเรื่องปกติ ทางผิดน่าสนุกกว่า มโนมยิทธิที่ถูกต้องจริง ๆ ก็คือรู้จักพระนิพพานได้ ไปพระนิพพานตรง การไปพระนิพพานนั้นเป็นการตัดกิเลสอัตโนมัติในตัวอยู่แล้ว ถ้าเราจดจำอารมณ์นั้นได้ แล้วเอามาปฏิบัติละให้ได้อย่างอารมณ์พระนิพพาน เราก็จะเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าได้ง่าย
แต่ส่วนใหญ่ที่เจอก็คือ พอทำได้แล้วก็ไปเที่ยวดูว่า คนนั้นเป็นอย่างนั้นกับฉัน คนนี้เป็นอย่างนี้กับฉัน ดูเสร็จแล้วไม่เข็ด ยังไปฟื้นความสัมพันธ์กับเขาอีก ก็ยิ่งบรรลัยกันหนักเข้าไปใหญ่ นี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ จะต้องเจอทุกคนแหละ ถ้ายังไม่เข็ดก็ยังจะทำไปอยู่เรื่อย ๆ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-05-2011 เมื่อ 03:33
|