ดังนั้นท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า อันดับแรก เรื่องของลมหายใจเข้าออกนั้น เราจะทิ้งไม่ได้ เพราะเป็นพื้นฐานใหญ่ที่จะสะสมกำลัง ช่วยในการกดกิเลสและตัดกิเลสได้
อันดับที่ ๒ พุทธานุสติหรืออุปสมานุสติต้องเกาะไว้ให้มั่น ตอนแรกเราต้องเกาะไปก่อน ถ้าเราไม่มีที่เกาะ เราก็ไม่มีอะไรจะปล่อย เหมือนกับบุคคลที่ขึ้นสู่ที่สูง ก็ย่อมหาสิ่งที่เกาะเพื่อความมั่นคง แต่เมื่อถึงจุดหมายปลายทางเราก็ปล่อยวางการเกาะนั้นไปเอง
ประการสุดท้าย รู้ตัวอยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย ให้ปักใจแน่วแน่อยู่ที่เดียวว่า ถ้าตายแล้วขอไปพระนิพพาน หลายท่านปฏิบัติไปถึงระดับอยากจะตายแล้วคิดว่าดี อาตมาขอยืนยันว่าคนที่อยากตายนั้นจิตใจเศร้าหมอง ตายตอนนั้นไม่ได้ไปดีแน่ คนที่ทำถึงจริง ๆ เขาไม่ได้อยากตาย แต่เขาพร้อมที่จะตาย กำลังใจจะอยู่ในลักษณะว่า อยู่ก็ได้ ตายก็ดี อยู่เราก็ได้สร้างบุญสร้างบารมี ตายเราก็ได้ไปนิพพาน
ให้ทุกคนวางกำลังใจลักษณะอย่างนี้ โดยเฉพาะให้ส่งกำลังใจเกาะภาพพระ หรือเกาะพระนิพพานของเราเอาไว้เป็นปกติ ถ้ายังมีลมหายใจเข้าออกอยู่ ให้กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ถ้ายังมีคำภาวนาอยู่ ให้กำหนดรู้คำภาวนา ถ้าไม่มีลมหายใจเข้าออก ไม่มีคำภาวนา ก็ให้กำหนดรู้ว่าตอนนี้ไม่มีลมหายใจเข้าออก ไม่มีคำภาวนา อย่าไปดิ้นรนอยากจะหายใจใหม่ แค่กำหนดรับรู้เอาไว้เฉย ๆ ให้รักษาอารมณ์ดังนี้เอาไว้ จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันอาทิตย์ที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2011 เมื่อ 19:56
|