"ประการที่ ๓ นั้น ท่านบอกว่าเกิดจากพระโพธิสัตว์จุติจากสวรรค์ชั้นดุสิตลงสู่ครรภ์พระพุทธมารดา
ประการที่ ๔ พระโพธิสัตว์ประสูติ
ประการที่ ๕ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ไม่ใช่พระโพธิสัตว์แล้วนะ ถ้าตรัสรู้ต้องเป็นพระพุทธเจ้า
ประการที่ ๖ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา ท่านใช้คำว่า ธมฺมจกฺกปฺปวตฺนํ ยังธรรมจักรให้เป็นไป
ประการที่ ๗ ท่านบอกว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปลงอายุสังขาร
ประการที่ ๘ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่มหาปรินิพพาน
พระอานนท์พอได้ยินใจหายแวบเลย เพราะว่าพระพุทธเจ้าทรงปรารภถึงร่างกายของพระองค์ว่าจะไปไม่รอดแล้ว ไปไม่ไหวแล้วมาตลอดทาง พระอานนท์ก็ไม่ได้เฉลียวใจทูลอาราธนาไว้ พอได้ยินดังนั้นทราบว่าพระพุทธเจ้าปลงอายุสังขารแล้วแน่นอน ก็รีบกราบทูลอาราธนาให้พระองค์ท่านดำรงพระวรกายอยู่ต่อไปให้ได้ถึง ๑ กัป
พระพุทธเจ้าตรัสว่าไม่ทันแล้ว เพราะว่าพระองค์ท่านรับอาราธนาพญามารไปแล้วว่าอีก ๓ เดือนถัดจากนี้จะปรินิพพานที่สาลวโนทยานของกรุงกุสินารา"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2011 เมื่อ 20:25
|