"สมัยก่อนบ้านอาตมาทำสวน พวกมดส้ม มดแดงที่เขาแหย่รังเอาไข่ไปกินจะเยอะมากเป็นพิเศษ เขาสอนต่อ ๆ กันมาว่า เอาเนื้อจระเข้ไปแขวนให้มดกิน อาทิตย์เดียวมดจะงอกปีก แล้วก็บินไปหมด แสดงว่าเนื้อจระเข้มีฮอร์โมนเยอะมาก ขนาดว่ากระตุ้นให้มดงอกปีกเตรียมผสมพันธุ์ได้ พอมดมีปีกก็จะบินไปหมด
ดังนั้น..ใครอยากลองกินเนื้อจระเข้ ก็ลองดูว่าคึกไหม ? อาจจะคึกแต่มดก็ได้ เพราะว่าของบางอย่างเหมาะกับสัตว์บางชนิด เหมาะกับคนบางคน
อาตมากินเนื้อสัตว์มาแล้วแทบทุกชนิด เนื้อบางอย่างกินแล้วจำแม่นเลย เพราะกลิ่นและรสไม่เหมือนใคร อย่างเนื้อค้างคาว ต่อให้ปิดตากินลงไป ก็รู้ว่าเนื้อค้างคาว แต่เนื้อคนยังไม่เคยลอง
ในธรรมบทมีพระเจ้าโปริสาทกินเนื้อคน ท่านเองไม่ได้ตั้งใจกินนะ แต่เป็นความไม่รอบคอบของพวกที่เตรียมเครื่องเสวย ไม่รู้ว่าวันนั้นเป็นวันที่เขาหยุดฆ่าสัตว์กัน ทำให้หาเนื้อไม่ได้ พอหาเนื้อไม่ได้ก็เลยไปที่ป่าช้า เจอศพคนตายใหม่ ๆ ก็เชือดเนื้อมาทำอาหารถวายพระเจ้าแผ่นดิน
ปรากฏว่ารสชาติเป็นที่ถูกใจ พระเจ้าโปริสาทบอกให้พรุ่งนี้เอาอย่างนี้อีก พวกพ่อครัวก็เลยซวย พอหาศพสด ๆ ไม่ได้ ก็ต้องไปตกลงกับเพชฌฆาต ถ้าหากว่ามีศพประหารให้รีบส่งมาเลย พอบางวันไม่มี ก็ต้องไปกราบทูลความจริงให้ทราบ พระเจ้าโปริสาทบอกว่าเอานักโทษในเรือนจำไปประหารวันละคน และพระองค์ก็กินนักโทษจนหมดเรือนจำ
เมื่อติดใจรสชาติเนื้อคน ก็ต้องจับชาวบ้านมา พระพุทธเจ้าที่เป็นสุตโสมมาณพในชาตินั้น ก็ต้องไปอนุเคราะห์แสดงธรรมให้ฟัง พระเจ้าโปริสาทจึงได้สติคืนมา"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2011 เมื่อ 17:48
|