"สมัยก่อนอย่างหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านก็เล่นแร่แปรธาตุพวกนี้ ที่ชัดที่สุดคือหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ที่ว่านี่หมายถึงท่านที่ทำสำเร็จเป็นทองจริง ๆ นะ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ พอทำเป็นทองแล้วพวกลูกศิษย์แย่งกันขอ ท่านก็นั่งสูบบุหรี่ของท่าน สูบไปคิดไป ในที่สุดก็หยิบเอาทองขว้างไปกลางสระน้ำ เอาค้อนทุบเตาหลอมทิ้ง เลิกทำไปตลอดชีวิต เพราะเห็นแล้วว่าคนอาจจะฆ่ากันได้ พอให้คนหนึ่ง คนที่เหลือก็ไม่พอใจที่ตัวเองไม่ได้ ครั้นจะให้ทุกคนก็ไม่มีทุนมากพอที่จะทำให้
ตัวอย่างที่ชัดที่สุดคือสมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ ท่านเล่นแร่แปรธาตุ ได้เงินมาเท่าไรก็ไปซื้อถ่านมาสุมโลหะหมด จนกระทั่งท่านเลิกทำ ปรากฏว่าพอได้สูตรการสร้างพระกริ่งเนื้อนวโลหะมา ท่านก็เลยมาเริ่มต้นทำใหม่ กลายเป็นพระกริ่งสายวัดสุทัศน์ที่ดังระเบิดมาจนถึงทุกวันนี้
พระกริ่งสายวัดสุทัศน์หลังจากสิ้นยุคเจ้าคุณศรีแล้ว พอจะเป็นที่ยอมรับในวงการได้ก็มีพระกริ่งหลังปิ ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม) หรือหลวงลุงเสงี่ยม ที่เรียกหลวงลุงเพราะว่า ท่านสนิทสนมคุ้นเคยกับหลวงพ่อวัดท่าซุงมาก หลวงพ่อท่านเรียกว่าหลวงพี่ ลูกศิษย์ที่ตามไปจึงเรียกหลวงลุงกันหมด
หลวงลุงเสงี่ยมท่านเป็นสมเด็จพระราชาคณะ แต่ไม่ถือเนื้อถือตัว พระที่ไม่ถือตัวนี่อันตรายมาก เพราะถ้าเราไม่รู้จริงก็อาจจะล่วงเกินพระอริยเจ้าโดยไม่รู้ตัว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 16-05-2011 เมื่อ 07:49
|