พระอาจารย์กล่าวว่า "เก็บเงินไว้คนละนิดคนละหน่อย เอาไว้ช่วยตั้งกองทุนการศึกษาสำหรับพระภิกษุสามเณร พร้อมเมื่อไรจะประกาศในเว็บ
ตอนนี้ที่วัด พระเณร แม่ชี และฆราวาส รายจ่ายการเรียนค่อนข้างสูง ที่เรียนอยู่มีปริญญาโท ๗ (พระ ๕ แม่ชี ๒) ปริญญาตรี ๕ (พระ ๔ ฆราวาส ๑) มีหลายคนที่คุณสมบัติพร้อมที่จะเรียน แต่พอเอ่ยปากแล้ว เขาขอร้องหลวงพ่อว่าอย่าส่งไปเรียนต่อเลย ให้เขาไปขุดดินฟันหญ้าแบกหามอะไรก็ได้ แต่อย่าส่งไปเรียนเลย
พอดีช่วงนั้นมีพระรูปหนึ่ง เคยเป็นผู้อำนวยการกองทหารผ่านศึกมาก่อน เขาได้ยินชื่ออาตมามานานแล้ว เลยขอมาพบ พอเจอหน้าอาตมาก็จำได้ เพราะตอนเขาสอบนักธรรมตรี อาตมาเป็นคนเฉลยข้อสอบให้เขาเอง
ก็ถามว่าเมื่อไรจะเรียนนักธรรมโทเสียที เขาบอกว่าเอาแค่นี้แหละ อาตมาจึงบอกกับเขาว่า "ถ้ามีโอกาสให้เรียนไว้ก่อน เพราะมีแนวโน้มว่าในการปกครองคณะสงฆ์ต้องการวุฒิสูงขึ้นเรื่อย ๆ สมัยผมสอบนักธรรมเอก คนที่จบนักธรรมเอกยืดได้ทั่วประเทศ พอผ่านมา ๒๐ ปี สมัยนี้นักธรรมเอกเขาก็ไม่เห็นหัวแล้ว ขนาดเป็นมหาเปรียญ ถ้ายังไม่ถึงประโยค ๙ เขายังไม่แลเลย" แต่ท่านก็บอกว่า ผมพอแล้ว..แล้วท่านจะรู้ว่าแค่นี้ไม่พอใช้หรอก
ถ้าหากว่าสิ้นในหลวงอย่างกะทันหัน สิ่งหนึ่งที่วงการสงฆ์คาดไว้ก็คือว่า จะไม่มีการพระราชทานสมณศักดิ์อีก ก็แปลว่าบรรดาพระครู เจ้าคุณต่าง ๆ จะไม่ตั้งใหม่ ของเก่าใครเป็นแล้วก็เป็นไปเรื่อย ๆ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 15-05-2011 เมื่อ 07:14
|