"แต่ถ้าเป็นตาไป๊ไม่ต้องรอดาวหมาหลับ ตาไป๊เป็นนักย่องเบาตัวฉกาจ ย่องเบามานับไม่ถ้วน และเจ้าทรัพย์ไม่เคยจับได้สักครั้ง เขารู้อยู่ว่าตาไป๊ย่องเบา แต่ก็ไม่มีหลักฐาน จับไม่ได้คาหนังคาเขา
พอตาไป๊อายุมากแล้วก็ล้างมือ หลวงพ่อวัดท่าซุง ตอนนั้นท่านอยู่วัดชิโนรสที่กรุงเทพฯ มีเวลาว่างก็ถามตาไป๊ "แกย่องเบาอีท่าไหนวะ ?" ตาไป๊บอกว่า "ถ้าผมจะขึ้นบ้านไหนผมก็ไปสังเกตลู่ทางไว้ก่อน พอเย็น ๆ ใกล้ค่ำก็ลงมือ" "ลงมืออย่างไรวะ ? ใกล้ค่ำยังไม่ทันจะมืด"
ตาไป๊บอกว่า "ประกอบเครื่องมือในการย่องเบา" พอหลวงพ่อถามเครื่องมืออะไร ตาไป๊บอกว่าเนื้อสับใส่กัญชาเยอะ ๆ ทอดให้หอม แล้วก็ไปโยนไว้แถวรั้วบ้าน เดี๋ยวหมาก็มากิน เขาบอกว่าถ้าหมากินเข้าไปแล้วจะเมากัญชา หลับชนิดจับหางลากรอบบ้านก็ไม่ตื่น
ถ้าหมาที่ได้รับการฝึกมา จะไม่ให้รับอาหารจากคนแปลกหน้า แต่นี่เขาไม่ได้ยื่นให้กิน เขาไปโยนทิ้งไว้ เท่ากับหมามาเจอเอง หมาเจอเอง นึกว่าเป็นของที่หาได้เองก็กิน
ถ้าเป็นสมัยนี้ต้องเปลี่ยนแล้ว จากย่องเบาเปลี่ยนไปย่องหาสาวแทน แต่คงต้องไปทำเนื้อสับใส่กัญชาให้พ่อแม่ของสาวกินแทน..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-05-2011 เมื่อ 02:18
|