พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า "เมื่อ ๔-๕ วันก่อน อากาศวิปริตมาก มีโยมโทรไปถามว่าทำไมอากาศเป็นอย่างนี้ ? อาตมาบอกว่าทางใต้มีพระผู้ใหญ่ที่เป็นหลักของประเทศมรณภาพ ปรากฏว่ารุ่งขึ้นท่านมรณภาพจริง ๆ ไม่ได้แช่งท่านนะ ท่านหมดอายุแล้วจริง ๆ
เคยไปกราบท่านหลายครั้ง สมัยก่อนเวลาไปหาท่าน ก็นั่งดูท่านทำนั่นทำนี่ไปเรื่อย ถักสายรัดข้อมือบ้างอะไรบ้าง สิ่งที่ท่านทำก็คือการทรงสมาธิ ท่านอยู่ปัตตานี กลางดงระเบิด
เรื่องของพระผู้ใหญ่ที่ละสังขาร ถ้าเราดูฟ้าดูดินเป็นก็จะรู้ ไม่ต้องใช้ทิพจักขุญาณอะไรหรอก ใครที่ทันสมัยหลวงพ่อวัดท่าซุงละสังขาร จะรู้ว่าอากาศเป็นอย่างไร ตอนนั้นเหมือนกับฟ้าปิด มืดฟ้ามัวดินไป ๗ วันเต็ม ๆ
ถ้าหากดูในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าปรินิพพาน ก็จะมีเหตุนิมิตต่าง ๆ เกิดขึ้น กลองทิพย์บันลือขึ้น มีแผ่นดินไหว ดอกมณฑารพตกจากอากาศเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ยิ่งท่านที่มีบุญญาบารมีมากเท่าไร นิมิตที่แสดงออกก็จะยิ่งชัดมาก
ในเรื่องของคน ถ้าไม่ได้ประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บไข้ได้ป่วยมาก ๆ จนทนไม่ไหว มักจะตายตอนช่วงเปลี่ยนอากาศ เช่น ช่วงฝนต่อหนาว ช่วงหนาวต่อร้อน ช่วงร้อนไปฝน ช่วงรอยต่อระหว่างอากาศ ถ้ามีคนแก่มีคนป่วยอยู่ให้ดูแลให้ดี เพราะร่างกายของคนแก่หรือคนป่วยมักจะอ่อนแอ พอทนสภาพอากาศไม่ไหวก็ไปเลย ใครที่ป่วยบ่อย ๆ จะรู้ว่า เวลาอากาศเปลี่ยนจะเหมือนกับซ้ำให้อาการหนักขึ้น"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-05-2011 เมื่อ 02:10
|