"ขอยกตัวอย่างครอบครัวหนึ่ง เป็นครอบครัวไฮโซแต่เลี้ยงลูกดีมาก วันเสาร์-อาทิตย์ พาลูกไปขุดดิน ฟันหญ้า ปลูกผัก ถึงเวลาก็สอนให้ลูกตัวเองกินพวกผักพวกผลไม้ที่เด็ก ๆ ทำ เด็กเขาปลื้มใจด้วยและได้เล่นด้วย พอกินไปกินมาก็ติดนิสัยเดียวกับอาตมา
อาตมาเองอยู่กับไร่กับสวนมา มีแต่พวกผักพวกผลไม้ ไม่มีขนม สมัยก่อนจะมีขนมกินต้องรอตอนช่วงมีงาน อย่างเช่น หน้าตรุษหน้าสารท ในเมื่อกินผักผลไม้จนชินมาอย่างนั้น ก็ไม่ชินกับขนม ชินกับผลไม้มากกว่า เด็ก ๆ พวกนี้ก็เหมือนกัน
พอเข้าอนุบาล พ่อแม่เขาก็เอากล้วย กล้วยน้ำว้าสุกนี่แหละ ปาดหัวปาดท้ายเหลือแต่ลูกพอดี ๆ ใส่ปิ่นโตไปให้ เด็กเขาก็กินอร่อยของเขาทุกวัน ด้วยความที่ตัวเองกินอร่อย เขาก็อยากให้ครูได้ของอร่อยด้วย วันนั้นก็เอาไปให้ครู ครูก็มารยาทดี รับแล้วก็วางไว้บนโต๊ะ
วันที่ ๒ ก็ยังวางอยู่ วันที่ ๓ เด็กก็มาบอกว่า "คุณครูขา..ถ้าคุณครูไม่กินหนูขอคืนนะคะ" เด็กเขาเสียดาย แต่ต้องบอกว่าครอบครัวนี้เก่ง เลี้ยงลูกดี ทั้ง ๆ ที่มีเงินเป็นร้อยล้านแต่เลี้ยงลูกดีมากเลย แล้วเด็กก็แข็งแรง ไม่เป็นภูมิแพ้ อาจเป็นเพราะว่าไปคลุกดินคลุกทราย ตากแดดตากลมอยู่ทุกวัน
เด็กต้องให้ผู้ใหญ่นำ พ่อแม่ขุดดิน เด็ก ๆ มองกันตาเป็นมันเพราะว่าอยากทำ พอส่งพลั่วส่งจอบให้ เด็กก็สนุกกันใหญ่เลย ไม่ฟันหัวกันก็พอแล้ว ปล่อยให้เขาสนุกไปเถอะ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2019 เมื่อ 04:08
|