ชื่อกระทู้: สิ้นโลก เหลือธรรม
ดูแบบคำตอบเดียว
  #179  
เก่า 12-05-2011, 18:47
สายท่าขนุน สายท่าขนุน is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 759
ได้ให้อนุโมทนา: 160,002
ได้รับอนุโมทนา 133,172 ครั้ง ใน 5,305 โพสต์
สายท่าขนุน is on a distinguished road
Post

ฌานสมาบัติและสมาธิ
เรื่องฌานสมาบัตินี้ ทุก ๆ คนย่อมปรารถนาอย่างยิ่ง
แม้สมัยก่อนพุทธศาสนาไม่มีในโลก พวกฤๅษีชีไพรก็ได้ทำกันแล้วเป็นหมู่ ๆ

ในสมัยเมื่อพระองค์ยังเป็นพระสิทธัตถราชกุมารแสวงหาพระโพธิญาณอยู่นั้น
พระองค์ได้ทดลองวิชาทั้งหลายที่ทรงศึกษาเล่าเรียนมาจากอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงต่าง ๆ ในสมัยนั้น
ทรงเห็นว่าไม่ใช่ทางตรัสรู้ พระองค์ได้ยินกิตติศัพท์ของท่านอาฬารดาบส
ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในทางวิชาแขนงนี้ จึงเสด็จเข้าไปขออาศัยฝากตัวเป็นศิษย์
เรียนรู้วิชากับสองอาจารย์นั้นจนสำเร็จเรียบร้อยเป็นอย่างดี
แล้วก็ได้ทดลองกระทำตามจนแน่ชัดว่าทางนี้มิใช่ทางตรัสรู้แน่แล้ว
แม้ว่าท่านอาจารย์ทั้งสองจะยกย่องว่ามีความรู้ความสามารถเทียบเท่าอาจารย์ได้
แต่พระองค์ก็เสด็จลาจากท่านอาจารย์ทั้งสองเที่ยวหาวิเวก
ทำความเพียรภาวนาทางจิตโดยลำพังพระองค์เอง

ทรงหวนระลึกได้ว่าเมื่อครั้งทรงพระเยาว์เป็นพระราชกุมารน้อย ๆ
พวกศากยราชทั้งหลายได้พาพระองค์ไปในพระราชพิธีแรกนาขวัญ
แล้วทอดทิ้งพระองค์ไว้ใต้โคนต้นหว้าเพียงลำพังพระองค์เดียว
ขณะนั้นพระองค์ได้ทำสมาธิจนเป็นไปภายในจิต ทรงกำหนดพิจารณาอานาปานสติ
จนเห็นแจ้งชัดว่า กายนี้เป็นเพียงเครื่องอาศัยแห่งลม
เมื่อลมขาดสูญไป กายนี้ก็เป็นของว่างเปล่าไม่มีประโยชน์อะไรเลย
แต่จิตยังคงเหลืออยู่เป็นผู้รับบาปกรรมและนำให้ไปเกิดในภพชาติต่าง ๆ
เมื่อพระองค์ทอดทิ้งกายโดยแยบคายอันชอบแล้ว ยังเหลือแต่จิตอย่างเดียว
จิตจึงรวมเข้าเป็นเอกัคคตา ถึงซึ่งอัปปนาสมาธิ

เวลานั้นตะวันบ่ายไปแล้ว แต่เงาของต้นหว้าก็ยังตั้งตรงอยู่
พวกศากยราชทั้งหลายที่พากันมานะด้วยเห็นว่าพระองค์เป็นพระกุมารน้อยอายุยังอ่อน
ไม่เคยกราบไหว้พระองค์ ต่างก็พากันแห่มากราบไหว้พระองค์ทั้งสิ้น
เมื่อระลึกได้ดังนั้น พระองค์จึงทรงพิจารณาว่าทางนี้จะเป็นทางตรัสรู้กระมัง
ต่อนั้นไปพระองค์จึงบำเพ็ญอานาปานสติ จึงถึงพระสัมมาโพธิญาณ ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน

อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2011 เมื่อ 03:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา