ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 12-05-2011, 11:30
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

ธัมมวิจยะ เรื่องสันโดษ

๑. การสนทนาธรรม คุย ๆ กันแล้วหากไม่พึงจดบันทึกไว้ด้วย ก็ลืมได้ บางคนไม่กี่นาทีก็ลืมได้ ลืมดี ให้ถามตนเองว่าที่คุย ๆ กันมานั้นมีอะไรบ้าง เมื่อกลับถึงบ้านจำได้หรือเปล่า ถ้ายังจำได้ ก็ไม่ใช่ความจำเสื่อม หากจำไม่ได้แสดงว่าโรคความจำเสื่อมเริ่มเกิดขึ้นแล้ว

๒. โรคความจำเสื่อม ไม่จำเป็นจะต้องมีอาการปวดหัวด้วยเสมอไป และการปวดหัวก็มิใช่จะต้องเป็นโรคประสาทเสมอไป สาเหตุจากโรคหวัด-โพรงจมูกอักเสบ-เครียดก็ปวดหัวได้ ความดันเลือดสูงหรือเปลี่ยนแปลงกระทันหันก็เป็นได้ เป็นต้น

๓. บางคนที่มีอรูปฌานในตน ชอบทรงอารมณ์อากิญจัญญายตนญาณ คือเห็นโลกทั้งโลกไม่มีอะไรเหลือ จิตปล่อยวางหมด มีปัญหาอะไรเข้ามากระทบก็ปล่อยวางหมด ไม่ใช้อริยสัจคือ กรรมทั้งหลายมาแต่เหตุ คือหนีปัญหา ไม่คิดสู้ปัญหา ซึ่งไม่ใช่วิธีปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องทางพุทธศาสนา คือมีเรื่องอะไรเข้ามาก็วางเฉย ช่างมัน โดยไม่คิดพิจารณา ใช้อารมณ์ตัดให้ลืมไปเลย ทำบ่อย ๆ เลยชินกลายเป็นฌานในการลืม ซึ่งคิดว่าดีแต่จริง ๆ ไม่ดี เพราะไม่ได้สร้างปัญญาให้เกิด หนีปัญหาหลบเข้าไปอยู่ในอรูปฌานลูกเดียว

๔. หลักที่พระพุทธองค์ให้ไว้คือ กิเลสของคนอื่นไม่ต้องแก้เพราะแก้ไม่ได้ ให้แก้กิเลสของเรา เหตุการณ์บางอย่างเป็นวิสัยกฎของกรรม แก้ไขไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของคนภายนอก ก็ไม่ต้องแก้ ให้พิจารณาให้เห็นเป็นธรรมดา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่พ้นกฎของกรรม ไม่พ้นกฎของธรรมดาไปได้ ถ้าพิจารณาให้ลงตัวได้ จิตก็จักเป็นสุขมาก มิใช่คิดแล้วฝืนธรรมดา จิตยังสงบไม่ลง ก็ยังไม่ใช่สันโดษอย่างแท้จริง

๕. พระองค์ให้ดูตัวอย่างพระสันโดษ ที่ท่านแสดงธรรมนี้ได้อย่างชัดเจน ก็คือหลวงปู่บุดดา ถาวโร ท่านแสดงธรรมสันโดษไปทั่วทุก ๆ สถานที่ ทุก ๆ บุคคล และทุก ๆ เหตุการณ์ ท่านมีความพอดีหมด ทั้งกาย-วจี-จิตวิเวกอยู่ในธรรมนี้เป็นปกติ ซึ่งก็คือตัวมัชฌิมาปฏิปทานั่นเอง

๖. การสนทนาธรรมกันจึงมีประโยชน์สุดประมาณ หากรู้จักและเข้าใจเรื่องอารมณ์สันโดษได้ตามความเป็นจริง ธรรมทั้งหมดที่ทรงตรัสสอนนั้นมีความพิสดาร มีความละเอียดลึกซึ้งอยู่ในธรรมมาก ขอให้ทุกคนสนใจในการสนทนาธรรมกัน ซึ่งล้วนเป็นธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้นหรือพ้นทุกข์ทั้งสิ้น ทุกคนล้วนมีเวลาเหลือน้อย ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง อาจตายได้ในขณะจิตเดียว หากประมาทในความตาย นิพพานสมบัติหรือทางไปพระนิพพานก็อุดตันในบุคคลผู้นั้น แค่รู้ลม-รู้ตาย-รู้นิพพาน ก็สามารถเข้าสู่พระนิพพานได้แล้วโดยไม่ยาก อยู่ที่ความเพียรของเราเท่านั้น จุดนี้ไม่มีใครช่วยใครได้ กรรมใครกรรมมัน เพราะที่พึ่งอันสุดท้ายก็คือจิตหรือตัวเราเอง


ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา