ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 02-05-2011, 10:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,638 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๔

ให้ทุกคนนั่งในท่าที่สบายของตัวจ้ะ หายใจเข้าออกยาว ๆ สัก ๒-๓ ครั้ง เพื่อระบายลมหยาบออกให้หมด จากนั้นก็ปล่อยให้หายใจตามปกติ เพียงแต่กำหนดความรู้สึกให้ไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา

หายใจเข้า.. ลมหายใจผ่านจมูก ผ่านกึ่งกลางอก ลงไปสุดที่ท้อง หายใจออก.. ลมหายใจออกจากท้อง ผ่านกึ่งกลางอก มาสุดที่ปลายจมูก ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราอยู่แค่นี้ ถ้าหากว่าเผลอไปคิดถึงเรื่องอื่นเมื่อใด รู้สึกตัวขึ้นมา ก็ให้รีบดึงกลับมาอยู่กับลมหายใจเข้าออกของเราใหม่

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๒๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๔ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานวันแรกของเดือนพฤษภาคม ที่ต้องมาปลายเดือนเมษายนเพราะว่าอาทิตย์ถัดไปมีจะงานเป่ายันต์เกราะเพชร ถ้าหากเลื่อนไกลออกไปก็จะถึงกลางเดือนไปเลย และช่วงกลางเดือนนั้นก็มีงานบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รุ่นพิเศษ จึงไม่สามารถที่จะเลื่อนออกไปได้อีก ต้องเลื่อนเข้ามาเท่านั้น

โดยเฉพาะวันนี้ สิ่งที่เป็นข่าวใหญ่และทั่วโลกให้ความสนใจ ก็คือ พิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายวิลเลียมและแคทเธอรีน ที่ประเทศอังกฤษ เราจะเห็นได้ว่า สื่อมวลชนต่าง ๆ พากันให้ความสำคัญในข่าวนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะแสดงความตื่นเต้น ยินดีกับคู่บ่าวสาวทั้งสอง

ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้ว ตามภาษาของนักปฏิบัติของเราก็คือว่า ยินดีที่เขามีความทุกข์เพิ่มขึ้น เพราะคนทั้งหลายเหล่านั้นประกอบไปด้วยอวิชชาคือความไม่รู้ ว่าสิ่งที่เขาเห็นว่าน่ายินดีนั้น แท้จริงแล้วเป็นการเพิ่มทุกข์ให้แก่ตัวเอง

ความยินดีทั้งหลายเหล่านั้น ถ้าใช้ภาษาพระก็ต้องเรียกกันว่าปีติ แต่ว่าปีติในเรื่องนี้นั้น เกิดจากสิ่งกระตุ้นเร้าจากภายนอก อย่างเช่น งานอภิเษกสมรสเป็นเครื่องกระตุ้นทำให้คนเกิดปีติยินดีกัน บางท่านก็ต้องกระตุ้นด้วยแสงสีเสียงต่าง ๆ นานา บางท่านถึงกับกระตุ้นตนเองด้วยยาเสพติด..!

ปีติทั้งหลายเหล่านี้ไม่ยั่งยืน เพราะเมื่อสิ่งกระตุ้นเร้านั้นหมดไป ความรู้สึกยินดี อิ่มเอิบใจก็หมดไปด้วย จึงทำให้บุคคลจำนวนมากด้วยกันกลายเป็นนักเที่ยวกลางคืน เพราะว่าต้องวิ่งออกไปหาแสงสีเสียงต่าง ๆ ที่กระตุ้นเร้า โดยเฉพาะสุราและยาเสพติด

โดยที่เขาไม่รู้ตัวว่า เมื่อเขาเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมนั้น เขาเกิดความสุขเพราะมีสิ่งกระตุ้นเร้าจากภายนอกเข้ามาช่วย เมื่อเป็นดังนั้นก็เลยเกิดการเสพติด ก็คือ ติดสิ่งต่าง ๆ ที่มากระตุ้นเร้าทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ และสิ่งเสพติดอย่างเช่น สุราและยาเสพติดต่าง ๆ เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-05-2011 เมื่อ 02:45
สมาชิก 76 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา