ถาม : บางทีก็เหมือนมีปัญหา รู้สึกว่าเบื่อ ทุกข์ก็ไม่เอา ไม่อยากได้อะไรเลย แล้วทำไมคนเราถึงต้องเกิดมาตั้งแต่แรก ? จุติเกิดมาเป็นดวงวิญญาณเลยหรือคะ ? ตรงนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ใช่หรือคะ ?
ตอบ : ถ้าต้นไม้มีเมล็ด เมล็ดก็จะงอกต่อไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่มีเมล็ด คือสิ้นเชื้อแล้วก็งอกต่อไม่ได้ อย่างเรางอกมาถึงปัจจุบันนี้แล้ว ทนไปอีกสักชาติหนึ่งไม่ได้หรือ ?
ตั้งใจว่า ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา ขึ้นชื่อว่าการเกิดต่อไปไม่มีสำหรับเราอีก เราต้องการที่เดียวคือพระนิพพาน แล้วกติกาความเป็นพระโสดาบันเป็นอย่างไร เราก็ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติไป โดยคิดอยู่เสมอว่า ถ้าเราตายตอนนี้เราขอไปพระนิพพานที่เดียว
ถ้ากำลังใจเราเกาะมั่นคงอย่างนี้ได้ สักเช้าวันละ ๑๐ นาที เย็น ๑๐ นาที ตายแล้วไปพระนิพพานได้แน่นอน เพราะเท่ากับว่าเราตั้งเป้าหมายเอาไว้แล้วว่าเราต้องการอย่างนั้น แบบเดียวกับจองตั๋วรถไว้ พอเราขึ้นรถ รถก็จะไปส่งยังจุดหมายเอง
ถาม : แต่หนูรู้สึกว่า กำลังใจของหนูจะไปตกร่องตรงอรูปพรหมเสียก่อน
ตอบ : ไม่มีปัญหา เราก็ไปอรูปพรหมก่อน แล้วก็ตั้งใจว่าตายจากตรงนี้เราจะไปนิพพาน ใจสุดท้ายเอาเกาะนิพพานไว้ เราแค่เอานิพพานต่อท้ายไว้นิดเดียว กำลังอรูปพรหมสูงมากอยู่แล้ว แค่ต่อท้ายด้วยนิพพานก็พอ
ถาม : หนูรู้สึกว่าพวกรัก โลภ โกรธ หลง ถ้าคนถึงฌานจึงจะละได้หรือคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่..ต้องเป็นตั้งแต่พระสกทาคามีหรือเป็นพระโสดาบันละเอียดที่เรียกว่าเอกพีชีขึ้นไป ท่านทั้งหลายเหล่านี้ รัก โลภ โกรธ หลงแทบจะไม่ปรากฏแล้ว แต่ว่ารัก โลภ โกรธ หลงที่ยังมีอยู่นั้น เป็นรัก โลภ โกรธ หลงที่ละเอียด เป็นกิเลสที่ลึกอยู่ในใจ
อย่างเช่น เราตั้งความปรารถนาว่า เราจะเกิดเป็นเทวดาชั้นนั้นชั้นนี้ ยังตั้งความปรารถนาว่า เราจะเป็นพรหมชั้นนั้นชั้นนี้ หรือยังต้องตะเกียกตะกายเพื่อความหลุดพ้นต่อไป สภาพจิตยังมีงานที่ต้องทำอยู่ ก็ไม่สามารถที่จะหลุดพ้นได้ แต่ถ้าเราก้าวพ้นจากตรงนั้นแล้ว งานทุกอย่างไม่มี ก็จะปล่อยวางไปเอง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-01-2019 เมื่อ 08:27
|