ถ้าเราไม่สามารถที่จะทำตรงจุดนี้ได้ ไม่ว่าเราจะเปลี่ยนงานกี่ครั้ง ทุกอย่างก็จะออกมาเหมือนเดิม แล้วเราก็อาจจะไม่รู้ตัวด้วยว่า เกิดจากข้อบกพร่องตรงจุดไหนของตัวเอง 
  
ในการทำงานแต่ละโครงการ เรามีการสรุปทบทวนและประเมินผล ซึ่งตรงกับหลักการของพระพุทธเจ้า ในอิทธิบาท ๔ ข้อที่ว่าวิมังสา คือ ไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอว่า เราทำอะไร ? ด้วยวัตถุประสงค์อะไร ? ตอนนี้เราทำไปถึงไหนแล้ว ? เหลือเนื้องานอีกมากน้อยแค่ไหน ? จึงจะบรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้  
  
ในเมื่องานทั่ว ๆ ไป เรายังมีการสรุปทบทวนประเมินผล แล้วทำไมการที่เราจะสรุปทบทวนและประเมินตัวเอง เราจึงไม่ได้ทำกันบ้าง ? งานแต่ละวันผ่านไป ยอมสละเวลาสัก ๕-๑๐ นาที มาคิดดูสิว่า งานวันนี้ถ้าเราประเมินตัวเองโดยไม่เข้าข้างตัวเองแล้ว เราทำได้ดีพอแล้วหรือยัง ?  
  
อาตมาเองไต่เต้าจากตำแหน่งพนักงานธรรมดาของบริษัทไทยญี่ปุ่นเมตัลอุตสาหกรรม (Thai - Japan Metal Industry Co. Ltd.) ใช้เวลา ๗ เดือนก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าแผนก ขณะเดียวกันตอนที่รับราชการทหารอยู่ก็ฟันสองขั้นทุกปี จนกระทั่งครบสามปี เจ้านายต้องกาง รศ. ให้ดูระเบียบว่า การได้สองขั้นต้องไม่เกินสามปีติดกัน แปลว่าต้องมีการเว้น ถ้าไม่เว้นก็ผิดระเบียบ  
  
นี่คือสิ่งที่อยากจะบอกพวกเราว่า จริง ๆ แล้วพวกเราก็ทำอย่างที่อาตมาทำได้ เพียงแต่ว่าเราทุ่มเทความพยายามเพียงพอหรือยัง ? เรามีจิตสำนึกที่จะเสียสละเพื่อส่วนรวมเท่าไร ?
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				........................ 
 
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง 
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
			 
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 06-04-2011 เมื่อ 15:35
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |