ถ้าหากว่าท่านคิดทบทวน จนสภาพจิตมั่นอกมั่นใจว่าไม่มีความต้องการในร่างกายนี้แล้ว ไม่มีความต้องการในร่างกายคนอื่นแล้ว ไม่มีความต้องการเกิดมาในโลกนี้แล้ว การเกิดเป็นเทวดา เป็นพรหมที่พ้นทุกข์ชั่วคราวก็ไม่พึงปรารถนา เราต้องการที่เดียวคือพระนิพพาน
ก็ให้ทุกคนยกจิตขึ้นเกาะพระนิพพาน ท่านใดที่ใช้มโนมยิทธิได้ยกจิตขึ้นไปกราบพระข้างบนนั้น ถ้าท่านใดที่ทำไม่ได้ ก็ขอให้นึกถึงพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งที่เรารักเราชอบมากที่สุด ตั้งใจว่านั่นเป็นองค์แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า น้อมจิตน้อมใจยึดท่านเป็นที่พึ่งที่ระลึก คิดว่าถ้าเราตายลงไปตอนนี้ เราก็ขอมาอยู่กับพระองค์ท่านที่นี่คือพระนิพพาน
เมื่อใจของเราจดจ่อแน่วแน่อยู่กับเป้าหมายแล้ว ถ้าหากว่าท่านทั้งหลาย ยังมีลมหายใจเข้าออกอยู่ ให้กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ถ้ายังมีคำภาวนาอยู่ ก็กำหนดคำภาวนาไปด้วย ถ้าหากว่าไม่มีลมหายใจ ไม่มีคำภาวนา ก็กำหนดรู้ว่าตอนนี้ไม่มีลมหายใจไม่มีคำภาวนา
ประคับประคองรักษาอารมณ์ของเราให้นิ่ง อยู่กับพระนิพพานหรือกับภาพพระขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราเอาไว้อย่างนี้ จนกว่าจะได้ยินสัญญานบอกว่าหมดเวลา
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๔
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-03-2011 เมื่อ 17:16
|