ร่างกายมีสภาพเหมือนผีหลอก
สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ดังนี้
๑. “การมีร่างกายก็เป็นทุกข์อย่างนี้แหละ
มองหาความสุขของร่างกายจักไม่มีเลย ไม่ว่าร่างกายตนเองหรือผู้อื่น จักเห็นสภาพของความทุกข์ อันพึงมีได้จากร่างกายทุกเมื่อเชื่อวัน เพียงแต่ธาตุลมที่หายใจเข้าออกก็ไม่เที่ยง หากยึดถือเข้าไว้ก็เป็นทุกข์ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ แม้แต่อากาศธาตุ หรือแม้ที่สุดวิญญาณธาตุก็ไม่เที่ยง ร่างกายมีเวทนาไปต่าง ๆ นานา อิ่มก็ไม่เที่ยง บัดเดี๋ยวหิวใหม่ หิวก็ไม่เที่ยง บรรเทาทุกข์แล้วก็อิ่มใหม่ ความเจ็บไข้ได้ป่วยมีอยู่กับร่างกาย เพราะความไม่เที่ยงนี้เป็นปกติธรรมดาของร่างกาย”
๒. “เมื่อร่างกายมันมีความไม่เที่ยงอยู่อย่างนี้
ร่างกายจึงมีสภาพเหมือนผีหลอก หลอกให้ตนเองคือจิต หลงยึดในความไม่เที่ยงนั้นว่าเป็นเราเป็นเขา จึงทำความเกาะติดในร่างกายอย่างไม่มีวันที่สิ้นสุด”
๓. “
เมื่อพิจารณาถึงความไม่เที่ยงแล้ว ก็พึงดูธรรมที่เที่ยงของร่างกาย อันเมื่อ
ร่างกายมีความเกิดขึ้นมาในเบื้องต้น มีความเที่ยงที่จักต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจ มีความปรารถนาไม่สมหวัง มีความกระทบกระทั่งกับอารมณ์ที่ไม่ชอบใจ มีความตายเป็นที่สุด ล้วนแต่เที่ยงทั้งสิ้น”
๔. “พิจารณาอย่างนี้แล้ว
ให้จิตพึงยอมรับกฎธรรมดา อย่าวางอารมณ์พิจารณานี้เสีย ทำให้ได้เป็นปกติ แล้วที่สุดจิตจักวางร่างกายลงได้ด้วยอุบายนี้ ให้ถามตนเองว่าทำไมจึงต้องเกิดมามีร่างกาย? ทำไมร่างกายจึงต้องแก่? ทำไมร่างกายจึงต้องเจ็บ? ทำไมจึงต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจ? ทำไมจึงต้องมีความปรารถนาไม่สมหวัง? ทำไมจึงมีอารมณ์กระทบกระทั่งกับอารมณ์ที่ไม่ชอบใจ? และทำไมร่างกายจึงต้องมีความตายไปในที่สุด? นี่เป็นเพราะอะไร
หาคำตอบมาคิดพิจารณาให้เกิดปัญญาด้วยสัจธรรมทั้งหลายเหล่านี้ ค่อย ๆ คิด แล้วค่อย ๆ หาคำตอบที่แท้จริงให้พบ แล้วพวกเจ้าจักเห็นแจ้งในธรรมของร่างกาย อันชื่อว่าสักกายทิฏฐินี้ตามความเป็นจริง”
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
www.tangnipparn.com