อาตมาเองบางวันป่วยหนัก ๆ ร่างกายแย่ เรื่องของฌานสมาบัติถ้าร่างกายเจ็บป่วย หิว กระหายมาก ๆ เหนื่อยมาก ๆ จะไม่เอากับเราเลย บางวันป่วยหนัก ๆ ตั้งใจกำหนดเต็มที่เห็นยอดเกศเแหลม ๆ นิดเดียวเอง นิดเดียวก็นิดเดียว ให้ถือว่าพระพุทธเจ้าอยู่ตรงนั้น เราก็น้อมใจกราบลงไป
คราวนี้สำหรับพวกเรา ความรู้สึกแรก ๆ เหมือนกับหลับตาคลำของ เขาส่งของมาให้ชิ้นหนึ่ง เขาถามว่าเป็นอย่างไร ? เราก็บอกตามสภาพว่า ลักษณะอย่างนี้น่าจะเป็นปากกา หรือไม่ก็อาจจะเป็นเศษไม้อันหนึ่ี่ง ตอบไปตามความมั่นใจของเรา ถ้าครูฝึกเขายืนยันว่าถูก ความมั่นใจของเราเพิ่มขึ้น ๆ จิตก็จะเริ่มนิ่ง
แหม..แรก ๆ ใจเต้นตึ้กตั้ก ๆ จะถูกหรือเปล่า ? พอตอบไปตอบมา เออ..เราก็เก่งนี่หว่า แม่นเหมือนกัน ใจก็ชักจะนิ่ง พอนิ่งตอนนี้ภาพจะเกิด เพราะจิตนิ่งแล้วก็เหมือนกับน้ำที่นิ่ง พอน้ำไม่กระเพื่อมเราชะโงกดูเห็นหน้าตัวเองชัดไหม ? พอภาพเกิดขึ้นเราก็ไปตั้งใจมองให้ชัด ภาพก็หายไป เพราะว่าจิตเราต้องไปถึงสถานที่นั้น เราจึงจะเห็นภาพได้
ตอนนี้เรานึกถึงบ้าน คนที่ได้อภิญญาสมาบัติ คนที่ได้มโนมยิทธิจะเห็นเราอยู่ที่บ้านแล้ว เราต้องไปที่บ้านเราถึงเห็นบ้านนั้น แต่ที่เราเห็นบ้านนั้นเพราะความเคยชินของเรา จึงนึกออก บอกได้ไหมว่าเราเห็นด้วยตา ? ไม่ใช่หรอก..แต่ทำไมถึงชัด ? นั่นแหละ..คือการเห็นแบบมโนมยิทธิ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2015 เมื่อ 13:00
|