การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ
			 
			 
			
		
		
		
			
			การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ                                 
อโรคยา ปรมา ลาภา หมายความว่าอย่างไร? 
 
 
สมเด็จองค์ปฐม ทรงตรัสสอนเรื่องนี้ไว้มีความสำคัญดังนี้ 
 
๑.	ในกรณีร่างกายของคุณหมอที่ต้องการจักถามว่า พ้นจากโรคนั้นหรือยังนั้น ตถาคตก็ใคร่จักย้อนถามกลับไปว่า การเป็นโรคนั้นเป็นปกติธรรมของการมีร่างกายใช่หรือไม่ (ก็ยอมรับว่า ใช่) 
 
๒.	ทรงตรัสว่า ตราบใดที่ยังมีร่างกาย คำว่าปราศจากโรคนั้นย่อมไม่มี สักเพียงแต่ว่า บุคคลผู้นั้นมีปัญญาจักเห็นโรคอันเกิดจากธาตุ ๔ เสื่อมได้สักแค่ไหน แม้ความหิวก็นับว่าเป็นโรค ร่างกายเป็นรังของโรค เชื่อหรือไม่ (ก็รับว่า เชื่อ) 
 
๓.	สำหรับโรคลำไส้ของคุณหมอที่เป็นแผล เวลานี้เนื้อนั้นได้สมานกันเข้าแล้ว แต่ก็ยังเป็นเนื้ออ่อน ๆ พึงระมัดระวังอาหารรสจัด ๆ อย่าได้รับประทาน เพราะว่าจักเป็นที่แสลงแก่แผลเนื้ออ่อนนั้น จักร้อนจัด เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัดก็ให้งดไว้ก่อน พึงงดไว้ให้แผลหายสนิทอย่างน้อยก็เป็นแรมเดือน  (เพื่อนของผมก็คิดว่าทำไมนานนัก) 
 
๔.	ทรงตรัสว่า แผลภายในนี่นะ มันหายยากยิ่งกว่าแผลภายนอก เรื่องนี้คุณหมอเป็นหมอย่อมทราบดีอยู่แล้ว 
 
๕.	สำหรับการปฏิบัติ เวลานี้จักไม่ย้ำอะไรมาก ให้หมั่นดูอารมณ์จิตอย่างเดียวก็พอ 
 
๖.	ความดี ความชั่วของจิต ต่างก็ได้ศึกษากันมาพอสมควรแล้ว ต่างก็ย่อมสามารถจับความดี-ความชั่วของตนเอาไว้ได้ ให้ตั้งใจกำหนดรู้กันเอาเองก็แล้วกัน ขอเพียงอย่างเดียวให้ซื่อตรงต่ออารมณ์ อย่าโกงเข้าข้างตนเองว่าดีอยู่ร่ำไปก็แล้วกัน กล่าวคืออย่าให้อารมณ์มันหลอก คนอื่นหลอกเรานั้นยังไม่เจ็บใจเท่าตัวเองหลอกตัวเองนะ เพราะนั่นคืออารมณ์โมหะชัด ๆ ดูจุดนี้เอาไว้ให้ดี ๆ 
 
๗.	มีโรคก็เป็นทุกข์ ไม่มีโรคก็เป็นสุข อโรคยา ปรมา ลาภา แต่จริง ๆ แล้วสำหรับนักปฏิบัติ คำว่าไม่มีโรคนั้นไม่มี การมีขันธ์ ๕ จึงมีทุกข์อย่างยิ่ง ในอดีตความโง่ทำให้ไม่เห็นทุกข์ คิดว่าการมีขันธ์ ๕ เป็นสุข เห็นกามตัณหาเป็นของดี ทั้ง ๆ เป็นตัวทำให้เกิดขันธ์ ๕ ซึ่งเป็นบ่อเกิดของทุกข์ทั้งปวง
		 
		
		
		
		
		
		
		
		
			
			
			
			
				 
			
			
			
			
			
			
			
				
			
			
			
		 
	
	 |