ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 01-03-2011, 11:49
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,897 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default ภาราหะเว ปัญจักขันธา

ภาราหะเว ปัญจักขันธา

สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเพื่อนผม ซึ่งยังเป็นโสดไม่มีคู่ครองไว้ดังนี้

๑. “เจ้านึกดีใจใช่ไหม ที่ไม่มีคู่ครองหรือครอบครัวให้เป็นปัญหาเช่นบุคคลอื่น” (ก็ยอมรับว่า ใช่)

๒. “ภาราหะเว ปัญจักขันธา ทุกข์อันใดจักมาเกินกว่าภาระที่มีต่อขันธ์ ๕ นั้นไม่มี อยู่คนเดียวก็ทุกข์คนเดียว ยิ่งอยู่หลายคนยิ่งเพิ่มทุกข์มากขึ้นเท่านั้น”

๓. “การกอปรกิจ กาเมสุมิจฉาจารยิ่งเป็นทุกข์หนัก เพราะทุกข์เนื่องด้วยปัญหาครอบครัวแตกร้าวกันยังไม่พอ ต่อเมื่อตายกายแตกดับลงไปในภายหน้า จิตหรืออทิสมานกายจักต้องไปเสวยทุกข์อันแสนสาหัสในยมโลกีย์นรกต่อไป ซึ่งจักต้องลงนรกขุมใหญ่ก่อน แล้วผ่านนรกบริวารตามกฎของกรรมแห่งการละเมิดศีลนั้น”

๔. “ปุถุชนหลงอยู่ในสักกายทิฏฐิอย่างหนาแน่น หลงร่างกายว่าเป็นเราเป็นของเรา จึงเป็นเหตุให้มีการละเมิดศีล เบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่นทั้งในชาติปัจจุบันและสัมปรายภพ แต่อย่าตำหนิเขาเลยนะ ที่เขาทำเช่นนี้เพราะอกุศลกรรมเข้าไปบังคับ เห็นกรรมชั่วคิดว่ากรรมดี จึงทำกรรมเช่นนั้นไป นี่เป็นธรรมดาของโลกียชน”

๕. “เมื่อเห็นโทษของกาม เจ้าก็ยังจิตให้ออกจากกามโดยไว ที่ตรัสมานี้มิใช่กาเมเพียงสถานเดียว ตถาคตหมายถึงการติดรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมารมณ์ ตัวสุดท้ายคือตัวที่จักต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะอารมณ์ของจิตนี่แหละตัวสำคัญ แปรปรวนทุกวัน หาความเที่ยงไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เจ้าปรารถนาอยากจักคิดแต่สิ่งที่ดี มีธรรมที่เป็นสาระเป็นต้น แต่ธรรมารมณ์ก็ไม่วายเผลอไปเกาะติดธรรมที่ไร้สาระคือ ความคิดชั่วเข้าจนได้”
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 57 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา