ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 14-02-2011, 09:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,638 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อสามารถถอดถอน ละวางออกไปจากใจของเราได้ เราก็ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดให้ทุกข์อีก ดังนั้น..ในช่วงตรุษจีน จะเห็นญาติโยมโดยเฉพาะพี่น้องชาวจีนมากต่อมากด้วยกันเข้าวัดเข้าวาหรือเข้าศาลเจ้า เพื่อที่จะไปประกอบกรรมความดี

แต่ว่าส่วนใหญ่แล้ว ก็เป็นความดีในด้านอามิสบูชาดังที่ได้กล่าวมา ส่วนพวกเราทั้งหลายเมื่อรู้ว่า การปฏิบัติบูชานั้นดีอย่างไร เราก็มาปฏิบัติกันตามแบบของเรา เพียงแต่ว่าการปฏิบัตินั้น เราอยู่กับโลกก็ต้องเคารพสมมติของทางโลกด้วย

ให้อยู่กับโลกในลักษณะของน้ำที่กลิ้งอยู่บนใบบัวใบบอน แต่ว่าไม่ได้ติดอยู่กับใบบัวหรือใบบอนนั้น ก็คือเราไปกับโลกได้ แต่เรามีศีล สมาธิ ปัญญาเป็นเครื่องป้องกัน ไม่ให้เราเผลอไปยึดติดกับโลก ดังนี้เป็นต้น

ดังนั้น..ในช่วงวาระของตรุษจีนนี้ ขอให้ท่านทั้งหลายเข้าใจให้ชัดเจนว่า อามิสบูชานั้นเป็นเรื่องดี เพราะว่าเป็นเหตุให้เกิดโภคสมบัติในภายภาคหน้า แต่ขณะเดียวกัน ปฏิบัติบูชานั้น นอกจากนำความสุขในชาตินี้มาให้แก่เรา เพราะเป็นผู้มี กาย วาจา ใจ อันสงบ มีกำลังในการที่จะดับกิเลสได้ชั่วคราวแล้ว ยังสามารถจะนำประโยชน์สุขในเบื้องหน้า คือกำลังใจที่ทรงตัว ทำให้เราไปเกิดในสุคติภพได้

ตลอดจนนำประโยชน์สุขสูงสุด ก็คือ พาให้เราหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพานได้ เราจึงควรที่จะกระทำทั้งอามิสบูชาและปฏิบัติบูชา โดยที่ไม่คัดค้านอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยหลงเข้าใจผิดว่าสิ่งนี้ดีกว่า เพราะว่ากำลังใจของบุคคลนั้นอยู่ในระดับไหน ก็จะเห็นว่าสิ่งที่ตนปฏิบัตินั้นดีแล้วถูกแล้วทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าเป็นการดีของเขา ถูกของเขา หรือว่าดีของพระพุทธเจ้า ถูกของพระพุทธเจ้า เมื่อเรารู้ว่าสิ่งไหนที่เป็นสิ่งดีของพระพุทธเจ้า และถูกของพระพุทธเจ้าแล้ว ก็ให้เรายึดถือและปฏิบัติเพื่อความล่วงพ้นจากความทุกข์ของเรา

จากนี้ไปก็ขอให้ทุกท่านตั้งใจปฏิบัติภาวนา ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา เนื่องในวาระโอกาสวันขึ้นปีใหม่จีน แม้ว่าจะเป็นวัน ๒ ค่ำแล้วของจีนแล้วก็ตาม แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนตราบใดที่ยังไม่ถึง ๖ ค่ำ ก็ยังอยู่ในช่วงหยุดงานของคนจีนเขาอยู่

ในสมัยนี้แม้ว่าบุคคลจะยังยึดถือประเพณีอยู่ก็ตาม แต่ว่าความสำคัญของตรุษจีนก็ลดน้อยถอยลงไปมาก พวกเราก็อาศัยความสำคัญของตรุษจีนนี้ ในการสร้างความดีใส่ตัว ด้วยการปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญาของเรา

ลำดับต่อไปนี้ ก็ให้ทุกคนกำหนดความรู้สึกทั้งหมด อยู่กับลมหายใจเข้าออกและคำภาวนา ถ้าหากว่ายังมีลมหายใจอยู่ มีคำภาวนาอยู่ ก็กำหนดรู้ไป ถ้าลมหายใจเบาลง คำภาวนาเริ่มขาดหายไป ก็กำหนดใจรู้ว่าลมหายใจเบาลง คำภาวนาขาดหายไป

หรือว่าไม่มีลมหายใจ ไม่มีคำภาวนาเลย ก็กำหนดสติรู้อยู่อย่างนั้น อย่าอยากให้เป็นและอย่าอยากให้หาย เรามีหน้าที่กำหนดดู กำหนดรู้ไปเฉย ๆ ให้ปฏิบัติอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ยินสัญญาณบอกว่าหมดเวลา

พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2011 เมื่อ 15:00
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา