ปัจจุบันนี้เครื่องบวงสรวงที่เห็น มีจำนวนมากต่อมากด้วยกันที่เกินมาเยอะ เกินจนอาตมาเองก็ยังงง ๆ ว่ามาจากไหน ? อย่างบนโต๊ะบวงสรวงมีทองหยิบ ฝอยทอง ขนมจีน น้ำพริก นั่นเป็นเครื่องบวงสรวงเฉพาะของเสด็จในกรมหลวงชุมพร
มีถั่วลาชมาศ นั่นเป็นเครื่องบวงสรวงที่ใช้เวลาเราตั้งศาลพระภูมิ เขาเคยได้ยินอะไรก็จับมาใส่หมด โดยเฉพาะขนมต้มขาว ขนมต้มแดง สมัยนี้ก็มั่วกันไปหมด มีอยู่รายหนึ่ง ขนมต้มขาวกับขนมต้มแดงเหมือนกัน ยกเว้นแต่แป้งที่ทำขนมต้มแดง เขาใส่น้ำหวานสีแดงผสมลงไปหน่อยหนึ่ง
บางที่เขาบอกว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ แต่ปรากฏว่าผลไม้บนโต๊ะกลับไม่ใช่กล้วยน้ำว้า มะพร้าวอ่อน ส้มโอ กลายเป็นผลไม้ ๙ อย่าง อาตมาก็ได้แต่นั่งเกาหัว ตกลงว่าตูจะทำให้ดีไหม ? เอาเป็นว่า ถ้าไปงานไหน เห็นอาตมายื่นไมค์ให้คนอื่น ก็แปลว่าใช่เลยว่า งานนั้นต้องมีอะไรบกพร่องเสียอย่าง แต่ถ้างานไหนยอมทำบวงสรวงให้เขา แปลว่ายังพอที่จะรับได้อยู่
ถาม : ถั่วลาชมาศ คือถั่วเขียวหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : เป็นถั่วเขียวแกะเปลือก คำว่า ลาชะ คือข้าวตอก , มาศะ แปลว่าทอง ทีนี้ข้าวตอกทองนั้นไม่มี เลยใช้ถั่วเขียวแกะเปลือกแทน จะออกสีเหลือง ๆ คั่วให้สุก
ถาม : ก็คือต้องเอาถั่วเขียวมาคั่ว ?
ตอบ : ไปตลาดแล้วบอกว่า ขอซื้อถั่วที่ใช้ทำเต้าส่วน เขาจะกระเทาะเปลือกไว้ให้เราให้เรียบร้อยแล้ว เราแค่เอาไปคั่วหน่อยเดียว เพียงแต่ว่าคั่วไฟอ่อน ๆ ให้สุกเท่านั้น ถ้าหากว่าคั่วไฟแรงถั่วจะไหม้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2011 เมื่อ 15:06
|