ธัมมวิจยะหรือธัมมวิจัย
 
(บุคคลใดที่ใคร่ครวญพระธรรมวินัยอยู่เสมอ บุคคลนั้นจักไม่เสื่อมจากพระธรรม หรือไม่เสื่อมจากสัจธรรม บุคคลใดเห็นธรรม บุคคลนั้นเห็นเราตถาคต ความเป็นพระพุทธเจ้าอยู่ที่พระธรรมหรือจิตที่ทรงธรรม มิใช่อยู่ที่ร่างกาย ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นพระพุทธพจน์ทั้งสิ้น)
 
จากการศึกษาพระไตรปิฏกว่าด้วยพระธรรมวินัย แล้วนำมาธัมมวิจยะพอสรุปได้ดังนี้
 
๑.    ภิกษุอาทิกัมมิกะ (ภิกษุประพฤติชั่วโดยไม่รู้ก่อนที่จะบัญญัติศีล) เป็นผู้ทำให้เกิดศีล ๒๒๗ เพราะเหตุใด ต้นเหตุทั้งหมดเกิดจากอารมณ์โลภ โกรธ หลง และโลกธรรม ๘
 
๒.    โลกธรรม ๘ กับศีล เกี่ยวข้องกันอย่างไร
 
๓.    โลกธรรม ๘ กับอารมณ์ ๓ คือ โลภ-โกรธ-หลง ก็เกี่ยวเนื่องกันหมด
 
๔.    ธรรมหรือกรรมทั้งหลาย ล้วนมาแต่เหตุทั้งสิ้น
 
๕.    กฎของกรรมนั้นเที่ยงเสมอ และให้ผลไม่ผิดตัวด้วย
 
๖.    
พระองค์สอนหรือแสดงธรรมไปในทางเดียวกัน เกี่ยวเนื่องกัน เดินไปในทางเดียวกัน ไม่ขัดแย้งกันเลย ถ้าผู้รับฟังฟังแล้วเข้าใจ
 
๗.    ที่เกิดการขัดแย้งกัน มีความเห็นแตกต่างกัน (มีทิฏฐิต่างกัน) เพราะจิตของบุคคลผู้นั้นยังเจริญไม่ถึงจุดนี้ จึงเป็นเหตุให้เกิดอารมณ์พอใจ และไม่พอใจขึ้น หมายความว่ามีบารมีธรรมแค่ไหน ย่อมรู้ธรรมได้แค่นั้น เมื่อบารมีธรรมถึงแล้วก็จะเข้าใจ และไม่ขัดแย้งกันอีกต่อไป
 
๘.    ในการปฏิบัติทั้ง ๆ ที่รู้ ๆ อยู่นี่แหละ ก็ยังอดเผลอไม่ได้ เหตุจากโมหะ ความหลง หลงใหญ่ที่สุดคือ หลงคิดว่าร่างกายนี้เป็นเราเป็นของเรา เป็นตัวสักกายทิฏฐิ (
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับร่างกายเรียกว่าสักกายทิฏฐิ) เมื่อหลงคิดว่าตัวกูเป็นของกูแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับร่างกาย จึงเหมาเอาว่าเป็นของกูทั้งหมด
 
๙.    ใน
การปฏิบัติสำหรับคนฉลาด มีปัญญาสูง พระองค์ทรงให้ตัดหลงใหญ่ตัวเดียวคือ สักกายทิฏฐิข้อเดียว หลงเล็ก ๆ ก็หลุดจากจิตหมด สามารถจบกิจในพระพุทธศาสนาได้
 
๑๐.    กฎของกรรมหรืออริยสัจตัวเดียวกัน กรรมใดที่เราไม่เคยก่อไว้ทำไว้ในอดีต วิบากกรรมหรือผลของกรรมย่อมไม่เกิดกับเราในปัจจุบัน ทั้งฝ่ายดี (กุศลกรรม) และฝ่ายชั่ว (อกุศลกรรม)
 
๑๑.    
ใครหมดความหลงจึงจบกิจในพุทธศาสนา เพราะหลงเป็นเหตุจึงทำให้เกิดอารมณ์ไม่พอใจ (ปฏิฆะหรือโทสะ) และพอใจ (ราคะหรือโลภะ)
 
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่าง เพื่อให้เห็นประโยชน์อันหาประมาณมิได้ของธัมมวิจัย ซึ่งทำให้เกิดปัญญาในทางพุทธ ใครทำใครได้ ใครเพียรมากพักน้อย เดินทางสายกลางก็จบเร็ว แต่ส่วนใหญ่มักเพียรน้อย พักมาก ยังหาทางสายกลางไม่พบก็จบช้า
 
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗ 
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
 
ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ 
www.tangnipparn.com