"มัฏฐกุณฑลีเทพบุตรบอกว่า "ข้าพเจ้าอยากได้พระอาทิตย์กับพระจันทร์มาเป็นล้อรถ" อทินนกปุพพกพราหมณ์โกรธ "แกจะบ้าหรือเปล่า ? ใครที่ไหนจะสามารถเอาพระอาทิตย์กับพระจันทร์มาเป็นล้อรถได้" มัฏฐกุณฑลีเทพบุตรบอกว่า "ถ้าข้าพเจ้าบ้า ท่านก็บ้ายิ่งกว่า ข้าพเจ้าอยากได้พระอาทิตย์กับพระจันทร์มาเป็นล้อรถ เพราะข้าพเจ้ามองเห็นพระอาทิตย์กับพระจันทร์ แต่ท่านร้องไห้คร่ำครวญอยากจะให้ลูกชายที่ตายกลับฟื้นขึ้นมา ตอนนี้ท่านมองเห็นลูกชายของท่านหรือไม่ ?" 
  
อทินนกปุพพกพราหมณ์จึงได้สติว่า มาณพผู้นี้พูดเป็นภาษิตดี จึงสอบถามว่าเป็นใครมาจากไหน มัฏฐกุณฑลีเทพบุตรจึงบอกว่า "ข้าพเจ้าคือบุตรชายของท่าน หลังจากสิ้นชีวิตแล้วไปเกิดเป็นเทวดา มีวิมานทองคำ" อทินนกปุพพกพราหมณ์ก็แปลกใจ "ในชีวิตของเจ้าไม่เคยทำความดีอะไรเลย แล้วไปเกิดเป็นเทวดา มีวิมานทองคำได้อย่างไร ?" 
  
มัฏฐกุณฑลีเทพบุตรบอกว่า "ข้าพเจ้านึกถึงพระนามของพระสมณโคดมก่อนตาย ด้วยอานิสงส์นี้จึงทำให้ได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์" อทินนกปุพพกพราหมณ์ยังไม่เชื่อ มัฏฐกุณฑลีเทพบุตรจึงแนะนำว่า "ถ้าอย่างนั้นขอให้ท่านพ่อนิมนต์พระสมณโคดม พร้อมกับพระภิกษุ ๕๐๐ รูป มาฉันภัตตาหารที่บ้าน แล้วสอบถามเอาเองแล้วกัน" 
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				........................ 
 
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง 
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
			 
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2011 เมื่อ 16:08
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |